Saturday, 27 April 2024
NEWSFEED

ปลุกพลังคนรุ่นใหม่ สร้างสรรค์โลกดิจิทัล ไปกับกิจกรรม DIGITAL YOUTH NETWORK THAILAND เยาวชนอาสาดิจิทัล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ HACKaTHAILAND 2023 : DIGITAL INFINITY

กิจกรรมที่จะช่วยส่งต่อแนวคิด Digital Literacy เสริมสร้างเกราะป้องกันให้กับเยาวชน นักเรียน นักศึกษา พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำเยาวชนในโลกดิจิทัล ในหลักสูตร DIGITAL YOUTH NETWORK THAILAND เยาวชนอาสาดิจิทัล

โดยหลักสูตรในรอบ DIGITAL TRAINER มีวิทยากรที่มาร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ แชร์ประสบการณ์ พร้อมเสริมสร้างทักษะในการปรับตัวบนโลกดิจิทัล อาทิ Introduction to Digital Youth Network, Digital Skill and Knowledge, 21st-Century Opportunity, Youth Leader New Gen และอื่น ๆ อีกมายมาย

✏️เปิดรับสมัคร วันนี้ – 10 ธันวาคม 2565
คลิกไปที่ https://forms.gle/g555mMnpTtRYXiic8
?ประกาศผลวันที่ 12 ธันวาคม 2565 (เพียง 50 คน เท่านั้น!)

โดยผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องเข้ารับการอบรมเป็นเวลา 3 วัน 2 คืน ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 22-24 ธันวาคม 2565

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมทีมงาน SEED Thailand 0958158305

"เชียงราย" จัดยิ่งใหญ่!! งาน "มหัศจรรย์ 10 ชาติพันธุ์แม่สาย ครั้งที่ 8 ประจำปี 2565"

เมื่อวันที่ 7 ที่ผ่านมา นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ได้ให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดงาน "มหัศจรรย์ 10 ชาติพันธุ์แม่สาย ครั้งที่ 8 ประจำปี 2565" เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมของชนเผ่าทั้ง 10 ชาติพันธุ์ โดยมีนางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย นายชัยยนต์ ศรีสมุทร นายกเทศมนตรีตำบลแม่สาย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาชนให้การต้อนรับภายในงานในครั้งนี้

อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เป็นพื้นที่ที่มีประชากรอยู่ร่วมกันอย่างหลากหลายชาติพันธุ์ นอกจากคนพื้นเมืองล้านนาแล้ว ยังมีกลุ่มชาติพันธุ์ไทใหญ่ ไทลือ ไทเขิน ไทยวน ไตหย่า จีนยูนนาน อาข่า ลาหู่ ดาราอ้าง และชาติพันธุ์ลัวะ ซึ่งความหลากหลายชาติพันธุ์เช่นนี้ ถือว่าเป็นทรัพยากรที่ทรงคุณค่าทางการท่องเที่ยว เป็นสิ่งดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ไปเยือนแม่สายตลอดทั้งปี แต่ละกลุ่มชาติพันธุ์มีความหลากหลายทางวัฒธรรม มีภาษา มีอัตลักษณ์ มีประเพณีและวิธีชีวิตที่แตกต่างกันไป ผู้ที่มาร่วมงานจะได้ชมการจำลองวิถีชีวิตความเป็นอยู่และการละเล่นการแสดงต่าง ๆ ของทั้ง 10 ชาติพันธุ์

คนพิการเตรียมเฮ!! จุรินทร์ เคาะแก้ระเบียบบอร์ด “อำนวยความสะดวก-เข้าถึงสิทธิ เพิ่มจำนวนผู้ดูแล”

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชิวิตคนพิการแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.65 ซึ่งมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้มีการพิจารณาแก้ไขระเบียบ กพช. เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนพิการ และเพิ่มการคุ้มครองสิทธิคนพิการที่ไม่มีผู้ดูแลและสิทธิของผู้ดูแลคนพิการ โดยที่ผ่านมา นายจุรินทร์ ได้สั่งการให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พิจารณาการลดขั้นตอนในการเข้าถึงสิทธิการขอความช่วยเหลือจากภาครัฐ และการสนับสนุนการทำงานของผู้ดูแลคนพิการ

ทั้งนี้ กพช.ได้เห็นชอบให้มีการแก้ไขระเบียบ โดยมีสาระสำคัญ อาทิ
1. เพิ่มช่องทางการยื่นคำขอการปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย การขอคุ้มครองสิทธิ โดยสามารถแจ้งต่ออาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ประธานชุมชนองค์กรเอกชน หรือหน่วยบริการในพื้นที่ และสามารถยื่นคำขอหรือทำการแจ้งผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ทำให้คนพิการสามารถเข้าถึงสิทธิได้มากขึ้นและสะดวกกว่าเดิมอย่างมาก
2. เพิ่มหน่วยงานในการฝึกอบรมผู้ช่วยคนพิการ โดยได้รับอุดหนุนงบประมาณจากกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ หรือกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ซึ่งจะทำให้มีจำนวนผู้ช่วยคนพิการมากขึ้น สอดรับความต้องการที่จำเป็นของคนพิการ
3. ผู้ช่วยคนพิการสามารถปฏิบัติงานเป็นรายชั่วโมงหรือรายวันตามความต้องการของคนพิการ เพื่อให้ผู้ช่วยคนพิการสามารถดูแลคนพิการตามความต้องการของคนพิการอย่างถูกต้อง

ประกันสังคม เปิดโอกาสให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 มาตรา 39 ที่ประสงค์เปลี่ยน รพ.ในปี 66 เตรียมยื่นเรื่องผ่าน 4 ช่องทาง เริ่มตั้งแต่ 16 ธ.ค.นี้

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน แจ้งว่า สำนักงานประกันสังคมได้เปิดให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 สามารถแจ้งขอเปลี่ยนสถานพยาบาล ประจำปี ด้วยเหตุจำเป็นไม่ได้รับความสะดวกในการไปรับบริการทางการแพทย์ ณ สถานพยาบาลที่เลือกไว้ ก่อนหน้านี้ เช่น ย้ายที่พักอาศัย ย้ายสถานที่ประจำทำงาน สามารถเริ่มเปลี่ยนสถานพยาบาลได้ ในวันที่ 16 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566

โดยสามารถเลือกเปลี่ยนสถานพยาบาลได้ใน 4 ช่องทางคือ ยื่นแบบการเลือกสถานพยาบาลในการรับบริการทางการแพทย์ สปส. 9-02 ได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือทำรายการผ่านเว็บไซด์ www.sso.go.th หรือทำรายการผ่าน Application SSO Connect และทำรายการผ่าน Line official sso โดยเพิ่มเพื่อน @ssothai (กรณีการเปลี่ยนสถานพยาบาลผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นแล้ว ไม่จำเป็นต้องยื่นเอกสารที่สำนักงานประกันสังคมอีก)

กระทรวงศึกษาฯ ประกาศนโยบายการเรียนประวัติศาสตร์แนวใหม่ เน้นทันสมัย-น่าสนใจ

วันที่ 6 ธ.ค. 65 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดนิทรรศการ 'การจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์' โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ คณะรัฐมนตรี ร่วมชมนิทรรศการ ซึ่งนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ประกาศนโยบายและจุดเน้นเรื่องการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ ประจำปีงบประมาณ 2566 โดยการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง และศีลธรรม ให้มีความทันสมัย น่าสนใจ เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน ควบคู่ไปกับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของท้องถิ่น และการเสริมสร้างวิถีชีวิตของความเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง ซึ่งจัดนิทรรศการในวันนี้ ศธ.ต้องการสะท้อนให้เห็นถึงการส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ ใน 4 ส่วน ดังนี้

ส่วนแรก วิชาประวัติศาสตร์ประกาศความเป็นไทย ปรับโครงสร้างเวลาเรียนรายวิชาพื้นฐาน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 โดยได้จัดทำร่างประกาศ ศธ.เรื่อง การบริหารจัดการโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และ 1 รายวิชาพื้นฐานประวัติศาสตร์ ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ โครงสร้าง 8+1 เพื่อให้สถานศึกษานำไปใช้ในการส่งเสริมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ทั้งในมิติของการจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล และการใช้สื่อและแหล่งเรียนรู้

เพชรบูรณ์ จัดโครงการเครือข่ายหมู่บ้าน/ชุมชนร่วมใจต้านภัยยาเสพติดจังหวัดเพชรบูรณ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

ที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ 1 นายชนก มากพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานพิธีเปิดการฝึกอบรม "โครงการเครือข่ายหมู่บ้าน/ชุมชนร่วมใจ ต้านภัยยาเสพติด จังหวัดเพชรบูรณ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566" โดยมีนายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวรายงาน พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ และผู้เข้ารับการฝึกอบรมจาก 11 อำเภอ จำนวน 100 คน เข้าร่วม

นายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ที่ทำการปกครองจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้จัดทำ โครงการเครือข่ายหมู่บ้าน/ชุมชนร่วมใจต้านภัยยาเสพติด จังหวัดเพชรบูรณ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จำนวน 1 รุ่น โดยใช้เวลาการฝึกอบรมจำนวน 2 คืน 3 วัน ระหว่างวันที่ 6-8 ธันวาคม 2565 มีผู้เข้ารับการฝึกอบรมจาก 11 อำเภอ จำนวน 100 คน โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสำรวจกลุ่มเป้าหมาย เยาวชน ที่มีแนวโน้มหรือมีโอกาสที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือสร้างปัญหาในพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชนในอนาคต เพื่อใช้เป็นกลุ่มเป้าหมายในการเฝ้าระวัง เพื่อคัดเลือกประชาชนวัยเสี่ยง ห้วงอายุ 13-29 ปี ที่อำเภอเห็นว่าเป็นผู้ที่จะสามารถนำมาพัฒนาให้เป็นผู้นำ หรือเป็นแนวร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อป้องกันปัญหายาเสพติดในพื้นที่ได้ตามเป้าหมายที่กำหนด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและหากิจกรรมการมีส่วนร่วมให้แก่ประชาชนวัยเสี่ยง ห้วงอายุ 13-29 ปี ที่ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษาภาคปกติ หรือกลุ่มว่างงาน หรือเป็นผู้มีจิตอาสาช่วยเหลืองานสาธารณประโยชน์ ได้มีส่วนร่วมในการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับครอบครัวและชุมชน ได้ตระหนักรู้ถึงปัญหายาเสพติด เพื่อลดและป้องกันผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดรายใหม่

ลำปาง-ศฝ.นศท.มทบ.32 นำจิตอาสาบริจาคโลหิต เพื่อประชา กู้วิกฤติโลหิตขาดแคลน

เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2565 มณฑลทหารบกที่ 32/ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน มณฑลทหารบกที่ 32 โดย พันเอก ชรินทร์ สุวรรณะ ผู้บังคับศูนย์การฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 32 มอบหมายให้ ร้อยเอกหญิง ศกุณิชญ์ ใจการ จิตอาสา 904 นำนักศึกษาวิชาทหารจิตอาสาพระราชทาน ชั้นปีที่ 3 จำนวน 13 นาย ร่วมบริจาคโลหิต ดวงตา และอวัยวะ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565 เพื่อให้ผู้ป่วยที่ต้องการเลือดเร่งด่วน กรณีต้องใช้โลหิตฉุกเฉินรอรับการรักษาพยาบาล โดยได้ยอดบริจาคโลหิต รวมจำนวน 5,200 ซีซี ณ อาคารบุญชูตรีทอง โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง

ประมวลภาพบรรยายกาศวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2565

เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2565  พลโท สุริยะ เอี่ยมสุโร แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานในการจัดพิธีตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 20 รูป ถวายเป็นพระราชกุศล ณ บริเวณลานพื้นแข็งหน้าสโมสรบันเทิงทัพ, พิธีถวายราชสักการะ ถวายสดุดี และกล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ ห้องบันเทิงทัพ 1 สโมสรบันเทิงทัพ และ กิจกรรมบริจาคโลหิต ถวายเป็นพระราชกุศลน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 5 ธันวาคม 2565 ณ บริเวณสโมสรบันเทิงทัพค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก

นอกจากนี้ ยังได้มีกิจกรรมอื่นๆ ที่กองทัพภาคที่ 3 และหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 3 ได้จัดกิจกรรม และนำกำลังพลเข้าร่วมกิจกรรม เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 5 ธันวาคม 2565 อาทิเช่น พิธีตักบาตรพระสงฆ์, กิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์, กิจกรรมมีแล้วแบ่งปัน, กิจกรรมเผยแพร่เกียรติคุณ, กิจกรรมการช่วยเหลือประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ เป็นต้น

ขณะเดียวกัน ที่บริเวณหน้าร้านบุญเจริญแม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ประชาชนทั่วสาระทิศยืนถือถุงหิ้วเดินทางรอคิวยาวเหยียด ภายหลังจากที่ทาง ร้านบุญเจริญแม่สะเรียง ร่วมกับ เครือข่ายพันธมิตร โรงน้ำดื่มนะโม โรงบรรจุ PT บจก.ม่วงเพ็ชรมาร์เก็ตติ้ง วิชิตการค้า โรงงานลูกชิ้นพรสวรรค์ โรงงานไส้กรอกเจ๊อัมพร ร่วม แจกจ่ายอาหารแห้ง มาม่า ไข่ แปรฟันสบู่ยาสีฟัน ขนม และอาหารปรุงสุข ข้าวเหนียวไก่ทอด ทอดมันปลาการาย ลูกชิ้นไส้กรอกทอด ส้มตำ แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พ่อหลวง โดย นายธนวรรธน์ ดีหอม เจ้าของร้านบุญเจริญแม่สะเรียง กล่าวว่า "การแจกจ่ายสิ่งของอาหารการกินในครั้งนี้ เป็นสิ่งที่ตนและพันธมิตรทางการค้า มีความตั้งใจที่จะทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่นายหลวง รัชกาลที่ 9 เพื่อร่วมแบ่งปัน สร้างความสุข รอยยิ้มให้ประชาชน ถือว่าเป็นการแบ่งเบาภาระลดค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนเองและครอบครัว สามารถทำได้ก็ขอทำความดีเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9"

"มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง" ช่วยเหลือผู้พิการด้อยโอกาสในส่วนภูมิภาค จัดทีมลงพื้นที่จังหวัดพัทลุงและจังหวัดเลย มอบรถเข็นวีลแชร์พร้อมค่าพาหนะ รวมมูลค่ากว่า 5 แสนบาท

วันนี้ (วันที่ 1 ธันวาคม 2565) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายนิพนธ์ โชคภิรมย์วงศา กรรมการปฏิคม พร้อมด้วย นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ นายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่ และ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำทีมลงพื้นที่จังหวัดเลย มอบรถเข็นวีลแชร์ ในโครงการ “ป่อเต็กตึ๊ง สงเคราะห์สังคม” รวม 79 คัน พร้อมมอบค่าพาหนะแก่ผู้พิการคนละ 500 บาท คิดเป็นมูลค่า 248,850 บาท (สองแสนสี่หมื่นแปดพันแปดร้อยแปดร้อยห้าสิบบาทถ้วน) โดยมี นายณรงค์ จีนอ่ำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย คณะมูลนิธิสว่างคีรีธรรม จังหวัดเลย เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี ณ ที่ทำการมูลนิธิสว่างคีรีธรรม จังหวัดเลย

โดยเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 65 ที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ จัดทีมลงพื้นที่จังหวัดพัทลุง มอบรถเข็นวีลแชร์พร้อมค่าพาหนะแก่ผู้พิการ จำนวน 100 คัน โดยมี นายฉัตรชัย อุสาหะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะพัทลุงการกุศลมูลนิธิ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี ณ ที่ทำการพัทลุงการกุศลมูลนิธิ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการขนส่งทางบก ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวระบบบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถ

วันที่ 1 ธันวาคม 2565 เวลา 10.00 น. ณ ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน สายงานกำกับกฎเกณฑ์และกฎหมาย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และพันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.วีระ จิรวีระ รอง จตช. และผู้บริหารของทั้ง 4 หน่วยงาน ได้ร่วมกันแถลงข่าวประชาสัมพันธ์ระบบบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถ หรือระบบตัดแต้ม และความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเพื่อสร้างระบบดังกล่าว ให้ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานสากล ระบบบันทึกคะแนนความประพฤติ กำหนดไว้ใน “ระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับระบบการบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ พ.ศ.2565” ซึ่งออกตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 142/1 โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 มกราคม 2566 ซึ่งจะเป็นมาตรการเสริมในการสร้างวินัยการขับขี่เพิ่มเติมจากการออกใบสั่งเพื่อบังคับใช้กฎหมายตามปกติ ภายใต้สโลแกน “มุ่งเน้นการสร้างวินัยการขับขี่ปลอดภัย ให้โอกาสแก้ไขไม่กระทำผิดซ้ำ สร้างความเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย และเป็นมาตรฐานสากล”

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวว่า สาระสำคัญของระบบนี้ คือ กำหนดให้ผู้ที่มีใบอนุญาตขับขี่แต่ละราย จะมีคะแนนความประพฤติคนละ 12 คะแนน  (ไม่ว่าผู้นั้นจะได้รับใบอนุญาตขับขี่กี่ชนิดก็ตาม) หากทำผิดตามกฎจราจรในข้อหาที่ระบุไว้ จะถูกตัดคะแนนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด ดังนี้ 
การตัดคะแนน 
1) กลุ่มความผิดหลักที่เป็นปัจจัยในการเกิดอุบัติเหตุ (20 ฐานความผิด) จะถูกตัดคะแนนเมื่อทำผิดทันที โดยความผิดในกลุ่มนี้แบ่งเป็น 4 ระดับ ได้แก่
 - ตัด 1 คะแนน  เช่น ขับรถเร็วเกินกำหนด ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ
 - ตัด 2 คะแนน  เช่น  ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร (ฝ่าไฟแดง)  
 - ตัด 3 คะแนน  เช่น ขับรถชนแล้วหนี 
 - ตัด 4 คะแนน  เช่น เมาแล้วขับ ขับรถในขณะเสพยาเสพติด 
2) กลุ่มความผิดอื่นๆ ตามกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก และกฎหมายที่เกี่ยวกับรถหรือการใช้ทาง จำนวน 42 ฐานความผิด ตามบัญชีท้ายระเบียบ ความผิดกลุ่มนี้จะถูกตัดคะแนนเฉพาะกรณีไม่ชำระค่าปรับตามใบสั่งในเวลาที่กำหนดเท่านั้น เช่น ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรในทาง จอดในที่ห้ามจอด ไม่แสดงใบอนุญาตขับขี่ขณะขับรถ เป็นต้น 

วิธีการตัดคะแนนนั้น จะดำเนินการโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้ระบบฐานข้อมูลใบสั่ง PTM ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการบันทึกการทำผิดกฎจราจรและตัดคะแนนในแต่ละครั้ง  

การสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่
- หากผู้ขับขี่ถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 คะแนน  จะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ หรือห้ามขับรถ (ทุกประเภท) เป็นเวลา 90 วัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้มีหนังสือแจ้งคำสั่งดังกล่าว และหากฝ่าฝืนไปขับรถในขณะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 156  
- หากถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นครั้งที่ 3 ภายใน 3 ปี อาจจะถูกสั่งพักใช้มากกว่า 90 วัน  และหากยังถูก
สั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่อีกเป็นครั้งที่ 4 อาจถูกพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. North Time Thailand
Take Me Top