Tuesday, 14 May 2024
ฝุ่นPM

ดีเดย์ 15 ก.พ.-30 เม.ย. “4 จังหวัด” ภาคเหนือ ลงนามบันทึกข้อตกลง ห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิด 75 วัน ฝ่าฝืนมีโทษหนัก ป้องเหตุไฟป่า หมอกควัน ฝุ่น PM 2.5

วันที่ 6 ม.ค. 66 นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ ข้าราชการทุกภาคส่วน ได้ร่วมการประชุมหารือถึงแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ตอนบน 1 ทั้งมีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1

ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดลำพูน, จังหวัดลำปาง และจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อบูรณาการแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 รวมทั้งได้กำหนดช่วงเวลาห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิด ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 - 30 เมษายน 2566 รวมระยะเวลา 75 วัน เพื่อสุขภาพที่ดี เศรษฐกิจที่ดี และคุณภาพชีวิตที่ดี โดยจะมีการบริหารจัดการเชื้อเพลิงโดยหน่วยงานภาครัฐ และในพื้นที่ที่มีการลงทะเบียนของจังหวัดเท่านั้น

เพื่อเป็นการป้องกันภัยจากไฟป่า หมอกควัน และลดมลพิษทางอากาศ ที่จะเกิดขึ้นจึงห้ามบุคคลทำการเผาในที่โล่ง ในพื้นที่จังหวัดลำพูนตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ถึง วันที่ 30 เมษายน 2566 และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ ดังนี้

เชียงใหม่ ฝุ่น PM 2.5 พุ่งหลายจุด กำหนดพื้นที่ห้ามเผาป่าถึง 16 เม.ย.

(เชียงใหม่ ) เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2566 ฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐานเข้าเกณฑ์สีแดงหลายจุด ล่าสุด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แต่งตั้งคณะกรรมการ บูรณาการร่วมกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ประกาศพื้นที่พิเศษเฝ้าจับตา 9 อำเภอเกิดไฟป่าซ้ำซาก 'ห้ามเผาในที่โล่ง' เป็นเวลา 75 วัน

สถานการณ์มลพิษทางอากาศที่จังหวัดเชียงใหม่ช่วงบ่ายวันที่ 25 มกราคม 2566 ปริมาณฝุ่นพีเอ็ม 2.5 รายชั่วโมงในหลายพื้นที่เกินค่ามาตรฐาน โดยเว็บไซต์ ศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือ CCDC รายงานค่าฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ในเวลา 13.00 น. พบเกินมาตรฐานทั้งหมด 47 จุดจาก 94 สถานีตรวจวัด

โดยสูงที่สุดที่จุดตรวจวัดคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัย ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ อยู่ที่ 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, ตำบลดอยแก้ว อำเภอจอมทอง 97 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตำบลสุเทพ อำเมืองเชียงใหม่ 95 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ โดยฝุ่นควันที่เกินมาตรฐานหลายพื้นที่ทำให้ประชาชนเริ่มได้รับผลกระทบต่อสุขภาพ

'วิชัย ทองแตง' ปั้นภาคีเครือข่าย 'รัฐ-เอกชน'  ดึงกว่า 50 องค์กร ร่วมใจพลิกเชียงใหม่ไร้ฝุ่น PM 2.5

'หยุดเผา เรารับซื้อ' หนึ่งในยุทธศาสตร์ที่ 'ภาคีเครือข่ายเชียงใหม่ ร่วมใจขจัด PM 2.5 และลดโลกร้อน' ผ่านการร่วมกันคิดและทำให้สำเร็จ ด้วยการรับซื้อซังข้าวโพดจากเกษตรกร สกัดการเผาทำลายซังข้าวโพด อันเป็นสาเหตุสำคัญที่เกิด PM 2.5 โดยนำมาแปรรูปเป็นชีวมวลอัดแท่งส่งไปสู่ระบบคาร์บอนเครดิต ด้วยมาตรฐานระดับโลกที่โรงงานต่างๆ ทั่วโลก ที่พร้อมจะรับซื้อต่อไปได้

(12 ก.ค. 66) ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า “ผมได้ร่วมหารือกับทุกภาคส่วนและกำหนดเป็นวาระเร่งด่วน สำคัญที่สุดในอันที่จะแก้ปัญหานี้ให้ได้ เพื่อปลดเปลื้องความทุกข์ร้อนของพี่น้อง ลูกหลานเราโชคดีเหลือเกินที่เรามีภาคีเครือข่ายที่เข้มแข็ง เกิดการร่วมแรงร่วมใจที่ทรงพลังอย่างยิ่ง อย่างที่ไม่เคยปรากฏเหมือนที่ใดมาก่อนเหมือนในวันนี้”

นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า “พวกเราประจักษ์รู้ในความเป็นจริงกันทุกคนว่าแท้จริงแล้ว มันเกิดจากฝีมือมนุษย์เราเอง การเผาป่า เรือกสวน กิ่งไม้ ไร่นา เพื่อพลิกฟื้นผืนดินทำกินของพวกเรากันเอง นั้นเกิดประโยชน์มหึมาแต่ก็เกิดโทษมหาศาล ทางอบจ.เราเองได้จัดงบลงไปปีละหลายสิบล้าน เพื่อแก้ไขปัญหา PM 2.5 บรรเทาทุกข์ให้กับชาวเชียงใหม่ ในวันนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่ชาวเชียงใหม่จัดตั้งเป็นภาคีเครือข่าย ซึ่งถือเป็นการแสดงครั้งสำคัญของพวกเรา” 

ด้าน คุณวิชัย ทองแตง นักธุรกิจผู้มีแรงบันดาลใจที่มุ่งหวังให้ จ.เชียงใหม่และภาคเหนือปลอด PM 2.5 ได้กล่าวว่า “ภาคีเครือข่ายนี้ถือเป็นการแสดงพลังของชาวเชียงใหม่ พวกเราต้องเป็นแกนนำผลักดันการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ของเชียงใหม่และของประเทศไทย อยู่ที่ทุกท่านร่วมมือร่วมใจกันเดินหน้าไปพร้อมกันในวันนี้ และถือเป็นครั้งแรกที่วันนี้ได้มารวมตัวกัน แม้ผมจะเป็นผู้ริเริ่มแต่การผลักดันให้สำเร็จก็อยู่ที่ท่านทุกคน และผลของความสำเร็จก็จะตกอยู่ที่ชาวเชียงใหม่และประเทศชาติของเรา”

ด้าน ผศ.วีระชัย ลิ้มพรชัยเจริญ ที่ปรึกษาโครงการบริษัท ชีวมวลอัดเม็ด จอมทอง จำกัด กล่าวว่า “ผมเล็งเห็นว่าการที่เกิดปัญหา PM 2.5 เยอะขนาดนี้ แสดงว่าชีวมวลก็เยอะเช่นกัน ทีมงานจึงได้ลงสำรวจพื้นที่ในการแก้ปัญหาเพื่อเสริมแหล่งผลิตชีวมวล ในการรักษาสภาพแวดล้อม โดยเริ่มต้นที่ อ.จอมทอง เพื่อเปลี่ยนเศษซากทางการเกษตร พร้อมขยายเพิ่มอีก 3 จุดในภาคเหนือ  โดยนำไปใช้ในอุตสหกรรม เพื่อพลังงานทดแทนสะอาด เป็นชีวมวลอัดเม็ดพร้อมคาดหวังให้ประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีรายได้กระจายสู่ชุมชน ถือเป็นความพยายามของภาคเอกชนโดย บริษัท ชีวมวลอัดเม็ด จอมทอง จำกัด ยินดีให้ความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายเชียงใหม่เพื่อลดปัญหา PM 2.5 ให้ได้อย่างยั่งยืน”

ดร.ก้องเกียรติ สุริเย ผู้เชี่ยวชาญด้านคาร์บอนเครดิต กล่าวว่า “ผมพร้อมเชื่อมโยงธุรกิจคาร์บอนเครดิตมาช่วยจังหวัดเชียงใหม่ แก้ปัญหา PM 2.5 เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน นับเป็นอีกช่องทางสนับสนุนโดยนำธุรกิจเข้ามาสร้างเม็ดเงินสู่ภาครัฐและภาคประชาชนให้มีรายได้เพียงพอที่จะสามารถกลับมาคิดพร้อมพัฒนาช่วยเรื่องของสิ่งแวดล้อมในเชียงใหม่ได้ ซึ่งประเด็นในเรื่องของคาร์บอนเครดิต ที่เกิดมาจากสภาวะโลกร้อน คือการที่ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกมากเกินไป โชคดีที่ประเทศไทยตระหนักในเรื่องของคาร์บอนเครดิตมีการพัฒนากันอย่างต่อเนื่อง ส่วนนี้จึงเป็นที่มาของการเอาคาร์บอนเครดิตมาช่วยสร้างธุรกิจ และเอาธุรกิจนั้นมาสร้างเม็ดเงินป้อนกลับมาสู่จังหวัดเชียงใหม่ แล้วทำให้จังหวัดเชียงใหม่นั้นมีรายได้มากขึ้น เพื่อนำเม็ดเงินนั้นไปพัฒนาสิ่งแวดล้อมแก้ปัญหา PM 2.5 นั้นให้ดีขึ้น โดยสิ่งที่ทางภาคีเครือข่ายต้องโฟกัสคือการจัดการขยะทางการเกษตร และการดูแลรักษาป่าเพื่อธุรกิจและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน”

หลังจากนั้นได้มีการเสวนาในหัวข้อ เราจะร่วมใจกันอย่างไรให้เชียงใหม่หมด PM 2.5 โดยมีผู้เข้าร่วมได้แก่ คุณชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ , คุณพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ , คุณพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ กรรมการ บริษัท แอทเซส เวิล์ด คอเปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) อดีตปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อดีตอธิบดีกรมสรรพสามิต , คุณอนุชา มีเกียรติชัยกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมภาคเหนือ , ดร.ณรงค์ชัย ชลภาพ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจคาร์บอน องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ , คุณชนนิกานต์ สุพิทยาพร นางสาวไทย ประจำปี 2566 , ผศ.วีระชัย ลิ้มพรชัยเจริญ ที่ปรึกษาโครงการบริษัท ชีวมวลอัดเม็ด จอมทอง จำกัด พร้อมฟังความคิดเห็นจากภาคีเครือข่าย นับเป็นการแสดงพลังครั้งยิ่งใหญ่ของภาคีเครือข่ายที่น่าประทับใจ และพร้อมที่จะพลักดัน หยุดเผา เรารับซื้อ ให้สัมฤทธิ์ผลเป็นลำดับต่อไป

สนใจนำเศษซาก ตอซังข้าวโพด เข้าร่วมโครงการ หยุดเผา เรารับซื้อ ของบริษัท ชีวมวลอัดเม็ด จอมทอง จำกัด สอบถามรายละเอียดได้ที่ 0934165953


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. North Time Thailand
Take Me Top