Friday, 26 April 2024
ตาก

องค์กรเอกชน จ.ตาก หวั่น เด็ก-เยาวชนข้ามชาติ ไม่ได้รับการศึกษา ไร้ที่อยู่อาศัย ก่อปัญหาอาชญากรรม และไร้การขัดเกลาจิตใจ

เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2566 ณ ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนสรรพวิทยาคม อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก นายนพเรศ พันธุ์นรา อธิบดีผู้พิพากษาภาค 6 ได้เป็นประธานในพิธีเสวนา และการประชุมคณะกรรมการคณะผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชน และครอบครัวภาค 6 ครั้งที่ 1/2566 ในหัวข้อปัญหาพฤติกรรม และการกระทำความผิดของเด็ก และเยาวชนข้ามชาติ ชายแดนจังหวัดตาก โดยมีนายนายยุทธพงศ์ ภูรีเสถียร พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดแม่สอด ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่ง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชน และครอบครัวจังหวัดตาก อีกตำแหน่งหนึ่งกล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์การจัดงาน

โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุมและเข้าร่วมเสวนาประกอบไปด้วย ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวในเขตอำนาจอธิบดีผู้พิพากษาภาค 6 คณะผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชน และครอบครัวภาค 6 ผู้อำนวยการสำนักงานประจำศาลเยาวชน และครอบครัวภาค 6 และนักเรียนโรงเรียนสรรพวิทยาคม อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก รวมทั้งสิ้น จำนวน 80 คน

การเสวนาดังกล่าวจัดขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาด้านพฤติกรรม และการกระทำผิดของเด็ก และเยาวชนชายแดนจังหวัดตาก เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้รับการบำบัด แก้ไข ฟื้นฟูที่มีความเหมาะสมต่อสภาพร่างกาย และจิตใจในการเตรียมความพร้อมสำหรับคืนเด็ก และเยาวชนกลับสู่สังคมเป็นสำคัญ เพื่อให้เด็กและเยาวชนชายแดนจังหวัดตาก มีโอกาสได้เรียนรู้ และพัฒนาศักยภาพของตนในการทำประโยชน์ให้แก่ตนเอง และสังคมโดยรวม

รวมทั้งการให้ผู้พิพากษาสมทบ ได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ให้การดำเนินงานเป็นไปตามแผนงาน และเกิดประโยชน์สูงสุดเป็นการสร้างความสามัคคีในหมู่คณะของผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชน และครอบครัวภาค 6 ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

สำหรับวิทยากรที่เข้าร่วมการเสวนาคือ นายกิตติ อินนาคกูล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดแม่สอด, นางปัณณภัสร์ อมรพีรสิทธิ์ ผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชน และครอบครัวจังหวัดตาก (แม่สอด), นายเศรษฐ์ อินทร์สุวรรณ์ ผู้อำนวยการสถานพินิจ และคุ้มครองเด็ก และเยาวชนจังหวัดตาก, นางศิราพร แก้วสมบัติ ผู้อำนวยการมูลนิธิช่วยไร้พรมแดน และนางสาวดาราราย รักษาสิริพงศ์ ผู้ประสานงานโครงการศูนย์เยาวชน Smile-Lay

นายกฯ แม่สอด ชื่นชม เด็กหญิงวัย 12 ปี วิ่งฝ่ากองเพลิง ช่วยชายพิการติดอยู่ในบ้านไฟไหม้ อ.แม่สอด จ.ตาก

(วันที่ 30 ม.ค. 66) จากกรณีไฟไหม้บ้านคุณยายวัย 79 ปี จนสิ้นเนื้อประดาตัว คุณยายเสียดายจักรเย็บผ้า เครื่องมือหากิน หมดตัวแต่ยังเหลือชีวิตรอดพร้อมลูกชายสติไม่สมประกอบ ล่าสุดนายกเทศมนตรีเทศบาลนครแม่สอดเร่งช่วยเหลือ พร้อมเตรียมเชิดชูเกียรติเด็กหญิงอายุ 12 ปี เสี่ยงลุยทะเลเพลิงบุกเข้าไปช่วยยายกับลูกจนปลอดภัย ถือเป็นตัวอย่างฮีโร่ตัวน้อยในสังคมแม่สอด เมื่อเวลา 09.30 น. ของวันที่ 29 ม.ค. 66

ความคืบหน้ากรณีเหตุเพลิงไหม้บ้านไม้เก่าแก่ชั้นเดียวของ คุณยายคำพลอย กศิผล อายุ 79 ปี ที่สร้างอยู่ย่านใจกลางชุมชนบ้านสองแคว 2 เขตเทศบาลนครแม่สอด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งเหตุเกิดเมื่อช่วงบ่าย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครแม่สอดระดมรถดับเพลิง 4 คัน เข้าสกัดเพลิงแต่บ้านคุณยายก็ถูกไฟไหม้วอดไปทั้งหลังจนทำให้คุณยายและบุตรชายวัย 52 ปีซึ่งป่วยสติไม่สมประกอบจากอุบัติเหตุต้องกลายเป็นคนหมดตัว

จากเหตุการณ์นี้ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 30 ม.ค. ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับคุณยายคำพลอย กศิผล ก็พบกับภาพอันน่ารันทดใจ เนื่องจากคุณยายเหลือเพียงเสื้อผ้าตัวเพียงชุดเดียว ซึ่งเช้าวันนี้คุณยายได้เข้าไปตรวจดูทรัพย์สินของมีค่าภายในบ้านของตนเองที่กลายเป็นเถ้าถ่าน และแววตาของคุณยายพบมีน้ำตาคลอเบ้าตาอยู่ตลอดเวลา ด้วยความเสียดายบ้านที่อยู่อาศัยมานานกว่า 30 ปี

ซึ่งคุณยายคำพลอยกล่าวสั้น ๆ ว่า ตนเองเสียดายจักรเย็บผ้าซึ่งเป็นเครื่องมือเพียงชิ้นเดียวที่ตนเองใช้ทำมาหากิน หาเงินดูแลลูกชายสองคน ซึ่งหนึ่งคนป่วยติดเตียงอยู่ที่โรงพยาบาลแม่สอด และอีกหนึ่งคนป่วยสติไม่สมประกอบจากอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งตอนนี้ตนเองยังไม่รู้จะทำเช่นไรต่อไป แต่ก็ยังมีกำลังใจจากนายกเทศมนตรีเทศบาลนครแม่สอด และทีมงานเข้ามาช่วยเหลือตลอด

'พาณิชย์ฯ' ขึ้นทะเบียน GI 'กล้วยหอมทองพบพระ' ชูสินค้าท้องถิ่นสู่ตลาดนอก เพิ่มรายได้ให้ชุมชน

(ตาก) กระทรวงพาณิชย์ ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รายการใหม่ 'กล้วยหอมทองพบพระ' จังหวัดตาก มั่นใจช่วยให้สินค้าเป็นที่รู้จัก เพิ่มมูลค่า และสร้างรายได้ให้ท้องถิ่นมากขึ้น เผยปัจจุบันมีขายอย่างแพร่หลายในท็อปส์ และวิลล่า มาร์เก็ต และยังส่งออกไปได้ถึงญี่ปุ่น สร้างรายได้ให้ชุมชนรวมกว่าปีละ 440 ล้านบาท

เมื่อไม่นานนี้ นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) กล้วยหอมทองพบพระ จ.ตาก ซึ่งเป็นสินค้า GI รายการที่ 3 ของจังหวัด ตามหลังแปจ่อเขียวแม่สอด (ถั่วทอด) และครกหินแกรนิตตาก ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนก่อนหน้านี้ โดยจะทำให้สินค้าชุมชนท้องถิ่นเป็นที่รู้จักมากขึ้น ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่นที่ปลูกกล้วยหอมทองพบพระได้มากขึ้น

สำหรับกล้วยหอมทองพบพระ เป็นกล้วยพันธุ์กล้วยหอมทองที่ปลูกในพื้นที่อำเภอพบพระ ด้วยสภาพอากาศร้อนชื้น ฝนตกสม่ำเสมอ ทำให้กล้วยหอมทองพบพระมีรสชาติหอมหวาน เป็นเอกลักษณ์ เนื้อสัมผัสแน่น เหนียวหนึบ ผลโค้งคล้ายรูปตัวแอล ปลายผลมีจุกคล้ายดินสอ เปลือกบางและผลสุกสีเหลืองทองสม่ำเสมอกัน ซึ่งกล้วยหอมทองพบพระ 1 เครือ มีน้ำหนักถึง 14 กิโลกรัม


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. North Time Thailand
Take Me Top