เมนู Plant-based ยอดนิยมของร้าน alt.Eatery
เมนู Plant-based ยอดนิยมของร้าน alt.Eatery ทั้งโดนัท ผัดไทย ไก่ป๊อป เกี๊ยวซ่า ที่คุณต้องลอง แวะมาชิมที่ร้านได้ หรือจะมาเลือกซื้อสินค้า Plant-based มากกว่า 500 ชนิดก็ได้เช่นกัน
เมนู Plant-based ยอดนิยมของร้าน alt.Eatery ทั้งโดนัท ผัดไทย ไก่ป๊อป เกี๊ยวซ่า ที่คุณต้องลอง แวะมาชิมที่ร้านได้ หรือจะมาเลือกซื้อสินค้า Plant-based มากกว่า 500 ชนิดก็ได้เช่นกัน
เมนู Plant-based ยอดนิยมของร้าน alt.Eatery
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับสายการบินเดลต้าแอร์ไลน์ และโคเรียนแอร์ จัดกิจกรรม 25 States 25 Agents Networking Event in Chiang Mai นำผู้ประกอบการนำเที่ยวชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา จำนวน 25 ราย จาก 25 มลรัฐ ร่วมสำรวจสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว และร่วมงานเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 ณ โรงแรมรติล้านนา ริเวอร์ไซต์ สปา รีสอร์ต เชียงใหม่ เพื่อขยายฐานตลาดและดึงนักท่องเที่ยวกลุ่ม First Visit เข้ามาท่องเที่ยวยังจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มมากขึ้น
ในปัจจุบัน การเดินทางจากสหรัฐอเมริกาเข้าประเทศไทย มีการเดินทางมาจากเมืองหลักเพียง 9 – 10 แห่งทั่วประเทศ ดังนั้น การขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่เพื่อให้สามารถเข้าถึงมลรัฐและเมืองอื่น ๆ ที่มิใช่แค่เมืองหลักเพียงอย่างเดียวจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะการขยายฐานกลุ่มนักท่องเที่ยว First Visit ซึ่งส่วนใหญ่มั่นใจในการเดินทางผ่านบริการของสายการบินสัญชาติอเมริกัน
ด้วยเหตุนี้ ททท. ภูมิภาคอเมริกา จึงร่วมกับสายการบินเดลต้าแอร์ไลน์ และโคเรียนแอร์ (Co-share) ซึ่งมีเครือข่ายครอบคลุมทุกมลรัฐ นำคณะผู้ประกอบการนำเที่ยวจากทุกมลรัฐในสหรัฐอเมริกา จำนวน 50 ราย พร้อมผู้แทนสายการบินเดลต้าแอร์ไลน์ และโคเรียนแอร์ เดินทางสำรวจสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 2 – 9 พฤศจิกายน 2565 เส้นทางกรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ และภูเก็ต หลังจากนั้น จะจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจร่วมกับเอกชนไทย ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 ที่ภูเก็ตและเชียงใหม่จำนวน 25 ราย/เมือง เพื่อนำเสนอขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว อันจะนำไปสู่การเสนอขายแพกเกจท่องเที่ยวในโอกาสต่อไป
นายพิชยา สายแสงจันทร์ ผู้อำนวยการกองตลาดอเมริกา กล่าวว่า เนื่องในโอกาสที่คณะผู้ประกอบการนำเที่ยวจากสหรัฐอเมริกา เดินทางมาสำรวจสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยสายการบินเดลต้าแอร์ไลน์ และโคเรียนแอร์ (Co-share) ที่มีบริการเส้นทางบินครอบคลุม 50 มลรัฐ สามารถสร้าง Accessibility ในการเพิ่มช่องทางที่หลากหลายให้นักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกาสามารถเดินทางมายังประเทศไทยได้ง่ายมากขึ้นผ่าน 17 Gateway ถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายฐานลูกค้าจากพื้นที่ใหม่ ๆ ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวระยะไกลจากสหรัฐอเมริกานับเป็นกำลังสำคัญที่จะส่งเสริมการฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เนื่องจากเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีอัตราการใช้จ่ายในระหว่างการเดินทางมูลค่าสูงกว่านักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่น
โดยนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 25 กันยายน 2565 มีนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอเมริกาเดินทางเข้ามาแล้ว 294,963 คน โดยมีค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริป 72,926 บาท และระยะเวลาพำนัก 14 วัน สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 21,500 ล้านบาท ซึ่งการร่วมมือกันกับสายการบินยักษ์ใหญ่ทั้งสองสายการบินในครั้งนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้การเดินทางมาประเทศไทยสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2436 หรือวันนี้ เมื่อ 129 ปีก่อน เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระมหากษัตริย์สยาม รัชกาลที่ 7 แห่งราชวงศ์จักรี เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันพุธ แรม 14 ค่ำ เดือน 11 ปีมะเส็ง เวลา 12.25 น. หรือตรงกับวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2436
โดยเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 96 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระองค์ที่ 14 ในสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ขึ้นเสวยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468
ปตท. ผนึก ไออาร์พีซี ดันการลงทุนและพัฒนาธุรกิจ Advanced Business Integration มุ่งเพิ่มสัดส่วนรายได้ธุรกิจใหม่
เมื่อวันที่ (7 พ.ย. 65) นายนพดล ปิ่นสุภา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ยืนกลาง) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อศึกษาการลงทุนตามกลยุทธ์ Advanced Business Integration (ABI) ระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) โดยนายประสงค์ อินทรหนองไผ่ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารกลยุทธ์กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ที่ 2 จากซ้าย) และนายกฤษณ์ อิ่มแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (ที่ 2 จากขวา) พร้อมด้วย นายจตุรงค์ วรวิทย์สุรวัฒนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่แผนกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ซ้าย) และนายสมเกียรติ เลิศฤทธิ์ภูวดล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายกลยุทธ์องค์กร บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (ขวา) ร่วมเป็นสักขีพยาน
นักท่องเที่ยวทะลักสนามบินเชียงใหม่ แห่เที่ยวเทศกาลลอยกระทงยี่เป็ง คาดช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวนี้จะมีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยวันละประมาณ 21,000 คน
สำหรับในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาท่าอากาศยานเชียงใหม่มีผู้โดยสารเฉลี่ยวันละประมาณ 19,000 คน เป็นผู้โดยสารภายในประเทศกว่า 18,300 คน ผู้โดยสารระหว่างประเทศกว่า 700 คน จำนวนเที่ยวบินเฉลี่ยวันละ 110-120 เที่ยวบิน
นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (8 พ.ย.) เห็นชอบการปรับเพิ่มค่าอาหารกลางวันเด็กนักเรียน โดยให้ปรับเพิ่มค่าอาหารกลางวันให้เด็กนักเรียนระดับชั้นเด็กเล็ก ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในอัตราตามขนาดของโรงเรียน โดยใช้วงเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน ปีงบประมาณ 2566 วงเงิน 3,533 ล้านบาท พร้อมอนุมัติหลักการค่าอาหารกลางวันของเด็ก ปีงบประมาณ 2567 ไว้แล้ว
วันนี้ เมื่อ 33 ปีก่อน รัฐบาลคอมมิวนิสต์ของเยอรมันตะวันออกเริ่มทะลายกำแพงเบอร์ลิน หลังสหภาพโซเวียตใช้ปิดกั้นเป็นเวลานานถึง 28 ปี
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1945 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง เยอรมนีในฐานะผู้แพ้สงครามถูกแบ่งประเทศออกเป็น 4 ส่วนภายใต้การควบคุมของ 4 ประเทศผู้ชนะคือ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และสหภาพโซเวียต หรือรัสเซียในปัจจุบัน
เชียงใหม่ - นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติแน่นประตูท่าแพชมขบวนแห่โคมล้านนาในงานประพณียี่เป็งเชียงใหม่ พร้อมการจัดแสดงประติมากรรมโคมไฟและการประกวดโคมแขวน ขณะที่ริมแม่น้ำปิงคนคึกคักลอยกระทง
4 ยักษ์ใหญ่ 'PTT – OR – TOYOTA – BIG' ผนึกกำลังเสริมแกร่ง Future Energy เปิดสถานีต้นแบบเติมไฮโดรเจนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิงแห่งแรกของประเทศไทย จับมือเดินหน้าสู่ผู้นำนวัตกรรมพลังงานสะอาด พร้อมรองรับรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง (FCEV) อนาคตใหม่ของการเดินทางเติมเต็มความยั่งยืนให้กับระบบนิเวศยานยนต์แห่งอนาคต
มอบประสบการณ์การเดินทางรูปแบบใหม่ ด้วยรถยนต์ โตโยต้า มิไร (Toyota Mirai) รถยนต์พลังงานไฮโดรเจน ในรูปแบบรถรับส่งระหว่างสนามบินอู่ตะเภา จ.ชลบุรี (U-Tapao Limousines) ให้บริการนักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจในพื้นที่พัทยา - ชลบุรี ตอบรับแผนภาครัฐ สู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emissions) เพื่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย
(8 พ.ย.65) นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) นายวิศาล ชวลิตานนท์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) นายปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด (BIG) นายปาซานา กาเนซ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด (TDEM) และ นายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด (TMT) ร่วมเปิดสถานีนำร่องทดลองใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Electric Vehicle: FCEV) แห่งแรกของประเทศไทย (Hydrogen Station) ณ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยการนำรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง รุ่นมิไร (Mirai) ของโตโยต้า มาเพื่อทดสอบการใช้งานในประเทศไทย ให้บริการในรูปแบบรถรับส่งระหว่างสนามบินอู่ตะเภา จ.ชลบุรี (U-Tapao Limousines) สำหรับนักท่องเที่ยวและผู้โดยสารในพื้นที่พัทยา - ชลบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง โดยจะทำการเก็บข้อมูลเชิงเทคนิคที่ได้จากการใช้งานจริง เพื่อสร้างการรับรู้และเป็นข้อมูลรองรับการขยายผลใช้งานในอนาคต
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยว่า ปตท. ตระหนักถึงความสำคัญเร่งด่วนของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก จึงมุ่งผลักดันการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2050 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายของประเทศ พร้อมทั้งส่งเสริมการสร้างความร่วมมือกับภาคีต่างๆ เพื่อร่วมกันผลักดันประเทศไทยมุ่งสู่เป้าหมายดังกล่าว ทั้งนี้ ปตท. เล็งเห็นว่าการลงทุนด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาดอย่างไฮโดรเจน ซึ่งเป็นพลังงานที่มีศักยภาพ จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามการนำไฮโดรเจนมาใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับยานยนต์ เป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับประเทศไทยที่จำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และการลงทุนมูลค่าสูง ความร่วมมือของ 5 พันธมิตรชั้นนำในกลุ่มพลังงานและยานยนต์ครั้งนี้ จึงเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ทั้งในด้านมาตรฐานระดับสากล และความปลอดภัยสูงสุดที่จะส่งมอบให้กับผู้ใช้บริการในอนาคต โดย ปตท. ได้ร่วมสนับสนุนการติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานของระบบอัดบรรจุก๊าซไฮโดรเจน และข้อมูลเชิงเทคนิคที่จำเป็น ร่วมผลักดันการใช้เทคโนโลยีพลังงานสะอาด เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้เติบโตไปด้วยกันในทุกมิติอย่างสมดุลและยั่งยืน