Sunday, 28 April 2024
NEWSFEED

กฟผ. เปิดโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนผาจุก แหล่งพลังงานงานแห่งใหม่ที่อุตรดิตถ์

กฟผ.เปิดโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนผาจุก ปิดกั้นแม่น้ำน่าน บริเวณอําเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมีเขื่อนสิริกิติ์เป็นแหล่งน้ำต้นทุน นับเป็นแหล่งพลังงานงานแห่งใหม่ กำลังผลิตไฟฟ้าเข้าสู่ระบบเฉลี่ย 91.26 ล้านหน่วยต่อปี และ เพิ่มพื้นที่ชลประทานได้กว่า 481,400 ไร่ ครอบคลุม 3 จังหวัด อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย

เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2566 นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ และนายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นประธานเปิดโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนผาจุก พร้อม กดปุ่มเดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้าโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนผาจุก แหล่งพลังงานงานหมุนเวียนแห่งใหม่ของจังหวัดอุตรดิตถ์ และเป็นโรงไฟฟ้าที่ลดก๊าซเรือนกระจก (คาร์บอนเครดิต) 1 ใน 10 แห่งของ กฟผ.โดยมีกำลังผลิตพลังงานไฟฟ้าเฉลี่ย 91.26 ล้านหน่วยต่อปี ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของเขื่อนทดน้ำผาจุก ตำบลบ้านด่าน อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมีผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติงาน กฟผ.เข้าร่วมพิธี เยี่ยมชมโรงไฟฟ้าฯ

จากนั้น ได้ดำเนินการส่งมอบโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนผาจุก ให้กับสายงานรองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า รับไว้เดินเครื่องและบำรุงรักษา ตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2566 เป็นต้นไป จากนั้นประธานในพิธีได้ร่วมกันปลูกต้นแก้วเจ้าจอม เพื่อความเป็นสิริมงคล จำนวน 2 ต้น และผู้ร่วมงานร่วมกันปลูกต้นไม้ อีกจำนวน 19 ต้น

นายบุญญนิตย์ กล่าวว่า จากการดำเนินงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนผาจุก อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ งบประมาณ 890,574,028.89 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างช่วงเดือนเมษายน 2561  และแล้วเสร็จ เดือนกันยายน 2565 โรงไฟฟ้าประกอบด้วยอาคารโรงไฟฟ้า เครื่องผลิตไฟฟ้า 2 เครื่อง กำลังผลิต 14 เมกะวัตต์ ระบบส่งไฟฟ้า 115 กิโลโวลต์ เชื่อมโยงเข้าระบบไฟฟ้าของ กฟผ.รวมกำลังผลิตเฉลี่ย 91.26 ล้านหน่วยต่อปี หลังก่อสร้างและทดสอบระบบสมบูรณ์ และสามารถทำการซื้อขายไฟเชิงพาณิชย์ สายงานรองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน จึงได้ส่งมอบโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนผาจุกให้กับสายงานรองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้ารับไว้เดินเครื่องและบำรุงรักษาต่อไป

จุดยืนประเทศไทย!! CGTN สื่อดังจีนถามเจาะนโยบายเปิดรับ นทท.ของไทย ด้าน 'อนุทิน' เปิดใจ!! ไทยไม่เลือกปฏิบัติ ทุกชาติเท่าเทียม

'อนุทิน' เนื้อหอม!! สื่อจีนขอสัมภาษณ์นโยบายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวของไทย ระหว่างถก World Economic Forum เมืองดาวอส - คลอสเตอร์ สมาพันธรัฐสวิส

(19 ม.ค.66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา ภายหลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ร่วมเวทีการประชุมหัวข้อ 'The Pulling Power of ASEAN' ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมสภาเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum (WEF) ที่เมืองดาวอส-คลอสเตอร์ สมาพันธรัฐสวิส สื่อที่มีชื่อเสียงจากประเทศจีน จากสถานีโทรทัศน์ CGTN ได้ขอสัมภาษณ์พิเศษรองนายกรัฐมนตรีของไทย ถึงนโยบายการท่องเที่ยว สาธารณสุข และการรักษาความสมดุลระหว่างการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจกับการดูแลประชาชนและระบบสาธารณสุขจากโควิด-19

สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ จัดประมูลหมายเลขทะเบียนรถสวย (รถเก๋ง) ครั้งที่ 31 หมวดอักษร งท

เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2566 เวลา 14.00 น.นางวราภรณ์ วรพงศธร ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ได้แถลงข่าว สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ จัดประมูลป้ายเลขสวย รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดคน (รถเก๋ง) หมวดอักษร งท ประมูลทางอินเตอร์เน็ต วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 โดยมีสื่อมวลชนและผู้สนใจร่วมงานจำนวนมาก

นางวราภรณ์ วรพงศธร ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ กำหนดจัดการประมูลหมายเลขทะเบียนรถสวย (รถเก๋ง) ครั้งที่ 31 หมวดอักษร งท "เงินทองท่วมท้น มากล้นทวีสุข" จำนวน 301 หมายเลข ทางอินเตอร์เน็ต www.tabienrod.com โดยท่านสามารถลงทะเบียน เลือกเลขและราคาที่ท่านพอใจตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยจะปิดการประมูล ในวันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566

การประมูลหมายเลขทะเบียนรถเก๋ง (เลขสวย) ในครั้งนี้ ถือเป็นวิถีใหม่แห่งการประมูล NEW NORMAL Auction ผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ตเพียงช่องทางเดียวในส่วนของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ไม่เกิน 7 คน (รถเก๋ง) แผ่นป้ายที่จะนำออกประมูล เป็นแผ่นป้ายภาพกราฟฟิคที่มีสีสันสวยงาม มีเอกลักษณ์และความหมายบ่งบอกความเป็นจังหวัดเชียงใหม่ ตามคำขวัญจังหวัดเชียงใหม่ "ดอยสุเทพเป็นศรี ประเพณีเป็นสง่า บุปผชาติล้วนงามตา นามล้ำค่านครพิงค์" ซึ่งจะสื่อความหมายของจังหวัดเชียงใหม่ที่เป็นจังหวัดที่มีความเจริญรุ่งเรือง สงบ ร่มเย็น ประชาชนมีความสุขโดยถ้วนหน้า อันจะส่งผลให้ผู้ที่ครอบครองป้ายดังกล่าวจะมีแต่ความเจริญ เป็นศิริมงคล รถที่ใช้อยู่จะนำพาให้มีทรัพย์เพิ่มพูนทวียิ่ง ๆ ขึ้นไป

ไม่เลือกปฏิบัติ 'อนุทิน' ตอบคำถามโควิด บนเวที World Economic Forum ชี้!! ไทยไม่เลือกปฏิบัติรับ นทท. หลังมีแผนพร้อมรับมือโควิดรัดกุม

'อนุทิน' ขึ้นเวที World Economic Forum โชว์วิสัยทัศน์ ยกบทบาทอาเซียนพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ของประชาคมโลก เผย ศักยภาพไทยบริหารโควิด19 หนุนประเทศเปิดรับนักท่องเที่ยวทุกชาติแบบไม่เลือกปฏิบัติ

(18 ม.ค.66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 66 ที่เมืองดาวอส-คลอสเตอร์ สมาพันธรัฐสวิส นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้นำคณะเข้าร่วมการประชุมในหัวข้อที่หลากหลายภายในการประชุมสภาเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum (WEF) และได้รับเชิญให้ขึ้นเวทีเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์ความสำเร็จทางนโยบายของประเทศไทย

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า โดยนายอนุทิน ได้รับเชิญให้ร่วมเวทีแสดงมุมมองรัฐบาลไทยในการประชุมหัวข้อ 'The Pulling Power of ASEAN' โดยมีผู้ร่วมเวทีจากทั้งภาครัฐและเอกชนภายในและนอกอาเซียน ได้แก่ นาง Merit Janow ประธานกรรมการอิสระ มาสเตอร์การ์ด, นาย Luhut B. Pandjaitan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงประสานงานกิจการทางทะเลและการลงทุน อินโดนีเซีย และ นาง Teresita Sy-Coson รองประธานกรรมการ  SM Investment Corporation, ฟิลิปปินส์

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายอนุทินได้กล่าวท่ามกลางความสนใจของที่ประชุมต่อภูมิภาคอาเซียนว่า ทุกประเทศในภูมิภาคนี้มีจุดแข็งของตัวเองและมีจุดร่วมสำคัญความสามารถในการปรับตัว อาเซียนเคยเป็นและจะยังคงเป็นที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ของมหาอำนาจ ทั้งไทยและประเทศอื่นๆ ในอาเซียนมีที่ตั้งอยู่ในเส้นทางยุทธศาสตร์ของจีน และนโยบายอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐฯ แม้จะมีความตึงเครียดในภูมิภาคแต่ความสามารถในการปรับตัว และนโยบายที่ไม่แทรกแซงระหว่างกัน จะส่งผลดีต่อเสถียรภาพและประโยชน์ทางเศรษฐกิจของอาเซียน

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรียังได้ชี้ให้ที่ประชุมเห็นถึงความร่วมมือที่แนบแน่นของอาเซียนในสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด19 จนเป็นภูมิภาคที่ฟื้นตัวจากโควิด19 ได้เร็ว และได้มีการจัดตั้งศูนย์อาเซียนด้านสาธารณสุขฉุกเฉินและโรคอุบัติใหม่ (ACHPEED) ขึ้นที่ประเทศไทย ด้วยตระหนักว่าหากในภูมิภาครับมือกับภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพได้ดีเท่าไร เศรษฐกิจก็จะมีเสถียรภาพมากขึ้นเท่านั้น เพราะไทยและอีกหลายประเทศในอาเซียนคือ ฐานการผลิตอุตสาหกรรมที่สำคัญของโลก และขณะนี้อาเซียนกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้ BCG Model ตามที่ได้กล่าวไว้ที่ประชุม APEC ที่ไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนพ.ย. 65 ที่ผ่านมานั่นคือ ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งเสริมให้อาเซียนคงเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญสำหรับประชาคมโลก

‘ไทย-อินเดีย’ กระชับความร่วมมือการวิจัย ยาและเวชภัณฑ์ รองนายกฯ อนุทิน หนุน 3 ประเด็นด้านสุขภาพเพิ่มจุดแข็ง 2 ประเทศ ชื่นชมอินเดียเป็นประธาน G20 ชูโลกหนึ่งเดียวไม่แบ่งแยกการพัฒนา

(18 ม.ค.66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 66 ระหว่างเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum (WEF) ที่เมืองดาวอส-คลอสเตอร์ สมาพันธรัฐสวิส นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ได้พบหารือกับ นายมานซุกร์ ลัคมาน มันดาวิยา (Mansukh Laxman Mandaviya) รมว.สวัสดิการสาธารณสุขและครอบครัว (Minister for Health and Family Welfare) และ รมว.เคมีภัณฑ์และปุ๋ย (Minister for Chemicals and Fertilizers) อินเดีย

นายอนุทิน และ นายมานซุกร์ ได้หารือถึงแนวทางที่ไทยและอินเดียจะกระชับความร่วมมือกันเพิ่มขึ้น ในประเด็นสาธารณสุข การวิจัย ยา และเวชภัณฑ์ จากปัจจุบันที่ 2 ประเทศมีความร่วมมือผ่านกรอบพหุภาคีและทวิภาคีต่างๆ ซึ่งเฉพาะความร่วมมือด้านสาธารณสุข ปัจจุบันไทยและอินเดียมีความร่วมมือผ่านบันทึกความร่วมมือ (MOU) 2 ฉบับ ได้แก่ MOU ระหว่างกรมการแพทย์และ Indian Council of Medical Research เพื่อร่วมกันการวิจัยทางสุขภาพและทางการแพทย์ และ MOU ระหว่างกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกกับสถาบันอายุรเวทแห่งชาติ เมืองชัยปุระ ในการร่วมมือทางวิชาการสาขาการแพทย์อายุรเวทและการแพทย์แผนไทย

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ระหว่างหารือนายอนุทินชื่นชมต่อประเด็นด้านสุขภาพ 3 ประเด็นที่รัฐบาลอินเดียกำลังให้ความสำคัญในขณะนี้ ซึ่งสอดคล้องกับการขับเคลื่อนด้านสุขภาพที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญ และมีความยินดีหากทั้ง 2 ประเทศจะได้ร่วมมือกันทั้ง 3 ประเด็น ได้แก่...

กองทัพภาคที่ 3 จัดพิธีบวงสรวงและพิธีวางพานพุ่มถวายราชสักการะ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวันกองทัพไทย 2566

วันที่ 18 มกราคม 2566 เวลา 08.09 น. ที่ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และพระรูปพระสุพรรณกัลยา ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก พลโทสุริยะ เอี่ยมสุโร แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วย คุณกันต์ฤทัย เอี่ยมสุโร ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบกสาขากองทัพภาคที่ 3 และคณะผู้บังคับบัญชา และกำลังพลกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 ร่วมพิธีบวงสรวงและพิธีวางพานพุ่มถวายราชสักการะ และจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย พร้อมทั้งกล่าวคำสดุดีพระเกียรติคุณฯ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงต่อสู้เพื่อกอบกู้เอกราชให้ชาติไทย และทรงกระทำยุทธหัตถีมีชัยชนะต่อพระมหาอุปราชา ในวันที่ 18 มกราคม 2135 ซึ่งตรงกับวันกองทัพไทย

Cr. ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าว

นักท่องเที่ยวแห่เซลฟี่คู่ดอกทานตะวัน สีเหลืองอร่าม เบ่งบานสะพรั่ง ตลอดสองข้างทาง ทางเข้าวนอุทยานถ้ำหลวง

วันที่ 18 มกราคม 2566 เช้าวันนี้ที่จังหวัดเชียงราย มีอุณหภูมิ 15-17 องศา มีนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นเหนือมาเที่ยว ซึ่งวนอุทยานถ้ำหลวงเป็นอีกแห่งที่ทุกคนเดินทางมาเที่ยวเชียงราย ต้องมาเที่ยวชน ซึ่งทางหน่วยงาน อบต.โป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้ร่วมกับชาวบ้าน ตำบลโป่งผา เพาะปลูกดอกทางตะวันตลอดสองข้างทาง ทำให้มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวยังถ้ำหลวงได้จอดรถ ลงแวะถ่ายรูปเซลฟี่คู่กับดอกทานตะวันสีเหลืองอรามเบ่งบานตลอดสองข้างทางกันเป็นจำนวนมาก

นางณัชชา กันทะดง นายก อบต.โป่งผา ได้กล่าวว่า วนอุทยานถ้ำหลวงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญระดับโลก ที่มีเหตุการณ์ช่วยเหลือเด็ก 13 คนที่ติดอยู่ในถ้ำ ทำให้ดังไปทั่วโลก ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวมาชมอย่างไม่ขาดสาย อีกทั้งช่วงนี้ทางจังหวัดเชียงรายเอง มีอากาศหนาวมาก

ซึ่งทาง อบต.โป่งผา และชาวบ้านจึงมีแนวคิด นำดอกทานตะวันมาปลูก เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวชมถ้ำหลวง ได้ถ่ายรูปเซลฟี่คู่กับดอกทานตะวัน จึงได้ร่วมกับชาวบ้าน เพาะปลูกต้นทานตะวันขึ้นมา นำปลูกตลอดสองข้างทางเข้าวนอุทยานถ้ำหลวง ทำให้ช่วงนี้ดอกทานตะวันเบ่งบานเต็มที่ สีเหลืองอร่ามตลอดสองข้างทาง อีกทั้งตลอดสองข้างทางยังมีไร่ยาสูบที่เกษตรกรปลูกไว้เรียงราย เป็นระดับแนวเดียวกันสีเขียวไปทั่วทั้งทุ่งอย่างสวยงาม

องค์กรเอกชน จ.ตาก หวั่น เด็ก-เยาวชนข้ามชาติ ไม่ได้รับการศึกษา ไร้ที่อยู่อาศัย ก่อปัญหาอาชญากรรม และไร้การขัดเกลาจิตใจ

เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2566 ณ ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนสรรพวิทยาคม อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก นายนพเรศ พันธุ์นรา อธิบดีผู้พิพากษาภาค 6 ได้เป็นประธานในพิธีเสวนา และการประชุมคณะกรรมการคณะผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชน และครอบครัวภาค 6 ครั้งที่ 1/2566 ในหัวข้อปัญหาพฤติกรรม และการกระทำความผิดของเด็ก และเยาวชนข้ามชาติ ชายแดนจังหวัดตาก โดยมีนายนายยุทธพงศ์ ภูรีเสถียร พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดแม่สอด ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่ง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชน และครอบครัวจังหวัดตาก อีกตำแหน่งหนึ่งกล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์การจัดงาน

โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุมและเข้าร่วมเสวนาประกอบไปด้วย ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวในเขตอำนาจอธิบดีผู้พิพากษาภาค 6 คณะผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชน และครอบครัวภาค 6 ผู้อำนวยการสำนักงานประจำศาลเยาวชน และครอบครัวภาค 6 และนักเรียนโรงเรียนสรรพวิทยาคม อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก รวมทั้งสิ้น จำนวน 80 คน

การเสวนาดังกล่าวจัดขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาด้านพฤติกรรม และการกระทำผิดของเด็ก และเยาวชนชายแดนจังหวัดตาก เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้รับการบำบัด แก้ไข ฟื้นฟูที่มีความเหมาะสมต่อสภาพร่างกาย และจิตใจในการเตรียมความพร้อมสำหรับคืนเด็ก และเยาวชนกลับสู่สังคมเป็นสำคัญ เพื่อให้เด็กและเยาวชนชายแดนจังหวัดตาก มีโอกาสได้เรียนรู้ และพัฒนาศักยภาพของตนในการทำประโยชน์ให้แก่ตนเอง และสังคมโดยรวม

รวมทั้งการให้ผู้พิพากษาสมทบ ได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ให้การดำเนินงานเป็นไปตามแผนงาน และเกิดประโยชน์สูงสุดเป็นการสร้างความสามัคคีในหมู่คณะของผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชน และครอบครัวภาค 6 ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

สำหรับวิทยากรที่เข้าร่วมการเสวนาคือ นายกิตติ อินนาคกูล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดแม่สอด, นางปัณณภัสร์ อมรพีรสิทธิ์ ผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชน และครอบครัวจังหวัดตาก (แม่สอด), นายเศรษฐ์ อินทร์สุวรรณ์ ผู้อำนวยการสถานพินิจ และคุ้มครองเด็ก และเยาวชนจังหวัดตาก, นางศิราพร แก้วสมบัติ ผู้อำนวยการมูลนิธิช่วยไร้พรมแดน และนางสาวดาราราย รักษาสิริพงศ์ ผู้ประสานงานโครงการศูนย์เยาวชน Smile-Lay

จัดพิธีบวงสรวงบูรพกษัตริย์สุโขทัยทุกพระองค์ เนื่องในวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ประจำปี 2566

วันที่ 17 มกราคม 2566 เวลา 07.00 น. ที่ลานด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย นายสุชาติ ทีคะสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย พร้อมด้วย นางพร้อมจันทร์ ทีคะสุข รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุโขทัย, ศาล, ทหาร, ตำรวจ, อัยการ, รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุโขทัย, สมาชิกวุฒิสภา, ดร.มนู พุกประเสริฐ นายก อบจ.สุโขทัย พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร และบุคลากร อบจ.สุโขทัย, ผู้นำทีองถิ่น, หัวหน้าส่วนราชการ, ข้าราชการ ประกอบพิธีบวงสรวงพ่อขุนรามคำแหงมหาราช และบูรพกษัตริย์สุโขทัยทุกพระองค์ จากนั้น ผู้แทนจากภาคส่วนต่าง ๆ ถวายพานพุ่มดอกไม้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย กล่าวถวายราชสดุดี เนื่องในวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ประจำปี 2566

ทั้งนี้ พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 3 ในราชวงศ์พระร่วงแห่งราชอาณาจักรสุโขทัย เสวยราชย์สมบัติประมาณปี พ.ศ.1822 ถึงประมาณปี พ.ศ.1841 พระองค์ทรงรวบรวมอาณาจักรไทยจนเป็นปึกแผ่นกว้างขวาง และได้ทรงประดิษฐ์ตัวอักษรไทยขึ้น ทำให้ชาติไทยได้สะสมความรู้ทางศิลปะ วัฒนธรรม และวิชาการต่าง ๆ สืบทอดกันมากว่า 700 ปี

วัยละอ่อนลำปางสุดยอด!! รับรางวัล 7 รายการ

นักเรียนลำปางคว้ารางวัล 7 รายการ ในการแข่งขันหุ่นยนต์โอลิมปิคนานาชาติและการแข่งขัน Robert – Sports Challenge 2023

ขอแสดงความยินดีกับของทีม Robot WMS โรงเรียนเวียงมอกวิทยาในการแข่งขันหุ่นยนต์โอลิมปิคนานาชาติ International Robot Olympiad 2022 (IRO 2022) : Phuket Thailand และการแข่งขัน Robert – Sports Challenge 2023 มี 16 ประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน ในวันที่ 12-16 มกราคม 2566 ณ จังหวัดภูเก็ต ได้รับรางวัล จำนวน 7 รายการ ดังนี้

การแข่งขันหุ่นยนต์นานาชาติ IRO 2022 รายการแข่งขันหุ่นยนต์ Robot Penalty Shootout

1.) นายธนทัต วินโด้ ได้รับรางวัลชนะเลิศ

2.) นายรัฐภูมิ ธาดาเจริญสุข ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2

3.)นายณัฐนันท์ ยี่ยวน ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 3


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. North Time Thailand
Take Me Top