Thursday, 2 May 2024
อนุทินชาญวีรกูล

จุดยืนต้องชัด!! ‘เสี่ยหนู’ แง้ม เปิดรับทุกคนร่วมบ้านภูมิใจไทย พร้อมตั้งเป้าเป็นพรรคขนาดใหญ่ มีทิศทางชัดเจน

(27 ธ.ค. 65) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 66 และการเปิดตัวบิ๊กเนมที่จะเข้าร่วมกับพรรคภูมิใจไทยว่า คงเป็นไปตามขั้นตอน เราไม่ได้ปิดกั้นอะไร พรรคพร้อมเสมอสำหรับผู้ที่จะมาร่วมงานกับพรรค ด้วยนโยบาย ประสบการณ์ และความสำเร็จของพรรค เราเปิดกว้างไม่ได้ปิดประตูใส่ใครแม้แต่คนเดียว

เมื่อถามว่า ช่วงนี้หลายพรรคการเมืองเริ่มขยับเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง และการเมืองในปีหน้าจะเป็นอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ปีหน้าก็มีการเลือกตั้ง พรรคการเมืองที่ตั้งใจจะมาเป็นตัวแทนของประชาชนคงต้องทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องการนำนโยบายไปสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ทั้งการเตรียมตัวเลือกตั้ง

“มันเป็นเรื่องใหญ่นะ แผ่นป้าย แผ่นพับ ต้องทำ รูปแบบการปราศรัยแตกต่างกันไป บางพรรคปราศรัยใหญ่ บางพรรคปราศรัยย่อย บางพรรคใช้วิธีการเคาะประตู ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเอง” นายอนุทิน กล่าว

‘อนุทิน’ วอนอย่าจับผิดภูมิใจไทย ปม ส.ส.ไหลเข้า ชี้!! ใครไปใครมา ไม่เคยด้อยค่า มีแต่ให้กำลังใจกัน

‘อนุทิน’ ขอมีน้ำใจนักกีฬาอย่าจับผิดแต่ ภท. ยันส.ส.ไหลเข้าออกไม่ใช่นวัตกรรมใหม่ วอนหยุดด้อยค่ากันเองด้วยคำว่า ‘เนรคุณ’ เพราะเท่ากับด่าประชาชน ชี้นักการเมืองต่างตอบแทนกันหมดแล้ว ถามกลับอายุเยอะแล้ว จะทะเลาะกันทำไม

เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงพรรคภูมิใจไทยในช่วงหลังปีหน้าจะมีนักการเมืองทยอยมาเข้าร่วมกับพรรคมากกว่าคราวเปิดรับสมัครสมาชิกพรรค เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมาหรือไม่ว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นได้หมด ถ้าการเมืองถึงคราวเปลี่ยนวาระหรือทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง สมัยก่อนปี 2535 คนวิ่งเข้าพรรคประชาธิปัตย์  ปี 2538 วิ่งเข้าพรรคชาติไทย ปี 2539 วิ่งเข้าพรรคความหวังใหม่ ปี 2544 วิ่งเข้าพรรคไทยรักไทย แล้วปี 2566 ถ้าคนจะวิ่งเข้าพรรคภูมิใจไทยมันแตกต่างจากอดีตตรงไหน 

“ไม่เห็นเป็นเรื่องใหม่หรือนวัตกรรมใหม่ แต่ถือเป็นเรื่องปกติ พรรคภูมิใจไทยมีทั้งคนเข้าและออก ที่เป็นส.ส. หรือผู้สมัครส.ส.ออกไปจากพรรคก็มี ทำไมตรงนี้ไม่มองว่าเป็นงูเห่าหรือพลังดูดบ้าง ไม่เห็นพูดถึง แต่พอมีคนเข้ามาพรรคภูมิใจไทยเป็นเรื่องเลย” นายอนุทิน ระบุ

นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่พรรคภูมิใจไทยแตกต่างจากพรรคอื่น คือใครจะมาใครจะไปเรายินดีหมด ใครจะไปเราถามคำหนึ่ง ถ้าเขายังยืนยันจะไป ก็ต้องบอกว่าโชคดีนะ ไปทำงานให้กับบ้านเมืองนะ ไม่มีอะไรโกรธกัน สบายใจได้ พบกันใหม่เมื่อชาติต้องการ

เตรียมพร้อมรับมือ!! ‘อนุทิน’ นัดถก ’คมนาคม-ท่องเที่ยว’ วางมาตรการรับจีนเปิดประเทศ

‘อนุทิน’ นัด ‘คมนาคม-ท่องเที่ยว’ หารือมาตรการด้านสาธารณสุขไทย รองรับนักท่องเที่ยวจีน ด้าน ‘ศักดิ์สยาม’ สั่ง บวท.-กพท. สรุปตัวเลขไฟลท์ของสายการบินจีน เสนอแลนด์ดิ้งเข้าไทย

(28 ธ.ค.65) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงกรณีประเทศจีนจะเปิดประเทศในวันที่ 8 ม.ค.66 ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังไทยจำนวนมากนั้น เรื่องนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข จะเชิญรมว.คมนาคมและรมว.ท่องเที่ยว ประชุมในวันที่ 5 ม.ค. เวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อกำหนดมาตรการสาธารณสุขในการรองรับการเดินทาง

“ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขไทยมีศักยภาพสูง พร้อมที่จะรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากจีนได้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกำลังประสานงานไปยังสถานทูตจีนว่าข้อเท็จจริงในการเปิดประเทศเป็นอย่างไรและจะมีมาตรการอะไรบ้าง เพื่อที่ไทยจะได้สามารถกำหนดมาตรการสาธารณสุขและกำหนดวิธีการปฏิบัติให้สอดคล้องต่อไป” นายศักดิ์สยาม กล่าว

‘อนุทิน’ ไม่ยึดติดคำอวยพร 120 เสียงของเนวิน ชี้!! พรรคตั้งใจทำนโยบาย เป็นตัวเลือกให้ประชาชน

‘อนุทิน’ ลั่นทำ ‘ภูมิใจไทย’ เป็นทางเลือก พาชาติพ้นความขัดแย้ง ขอพรรคทำให้ดีที่สุด ไม่ยึดติดคำอวยพร 120 เสียง ของ ‘เนวิน’ เชื่อแค่กลอนพาไป แจงมโนกันไปเอง โต้เสียงส.ส.ไหลเข้าเพราะกระสุนเยอะ ย้อนกลับหากชนะเลือกตั้งด้วยเงินทอง คงไม่ต้องคิดนโยบาย - ขึ้นเหนือล่องใต้หาเสียง

(29 ธ.ค. 65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการตั้งเป้าหมาย ส.ส. พรรคภูมิใจไทยเกิน 120 เสียง ตามที่ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เคยระบุไว้ หลังจากที่มีอดีต ส.ส.มาเปิดตัวเพิ่มว่า เชื่อว่าที่นายเนวินบอกว่าขอให้ได้ 120 คน ระหว่างวันเกิดครบรอบ 64 ปี ที่ จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น นายเนวินพูดขึ้นมาก็กลอนพาไปเท่านั้น ท่านเดินเข้ามาเห็นคนมาเยอะก็เลยพูดว่า 120 คงเป็นการอุปมาอุปไมย ตนอาจจะว่าทำไมตีต่ำอย่างนี้ ฉะนั้น อย่าไปยึดติดกับตัวเลขใด ๆ มีปัญญาทำพรรค ทำนโยบาย คัดเลือกผู้สมัครที่โดนใจประชาชนหรือไม่ แล้วเข้ามาได้แค่ไหน นั่นคือของจริง อีก 3 - 4 เดือนก็รู้แล้ว

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวด้วยว่า การทำการเมืองแบบพรรคภูมิใจไทย คือต้องเอาประสบการณ์ที่เลวร้าย คือความขัดแย้ง ความเกลียดชัง ฝักใฝ่ความรุนแรง ทำให้แตกความสามัคคี ของเหล่านี้พรรคภูมิใจไทยต้องไม่ทำ ถึงแม้เราจะถูกกระทำ เราจะทำได้หรือไม่ พอกันที และขอโอกาสที่จะนำประเทศออกจากความขัดแย้ง

'อนุทิน - ศักดิ์สยาม' ประสานเสียง พบสิ่งผิดปกติเปลี่ยนป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อสุดแพง พร้อมยกเลิกและลงโทษ

(3 ม.ค.65) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวอีกครั้งถึงกรณีที่มีการเปิดเผยถึงการลงนามในสัญญาจ้างการก่อสร้างโครงการปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อเป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย มูลค่าสูงถึง 33 ล้านบาท ว่า ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงคมนาคมไปดำเนินการตรวจสอบแล้ว แต่ป้ายมันใหญ่ ก็ต้องดูว่าราคากับปริมาณงานเป็นอย่างไรเพราะเป็นป้ายลักษณะพิเศษตัวหนังสือใหญ่ และเป็นการทำป้ายทั้งหมดหลายรายการ

เมื่อถามว่าแต่กระแสสังคมว่าแพงไป นายศักดิ์สยามกล่าวว่า คงมีการชี้แจง เพราะเรามีสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ ไม่ต้องกลัวในเรื่องเหล่านี้ ถ้าถูกก็คือถูก ถ้าผิดก็คือผิด ทั้งนี้ได้สั่งการไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ม.ค.แล้ว ไม่เกิน 7 วันก็คงทราบผล

'เสี่ยหนู' โยน ถาม ส.ว. ให้นั่งนายกฯ หรือไม่ หากภท.จัดตั้งรบ.สำเร็จ มีเสียงเหนือพปชร. - รทสช. พร้อมปฏิเสธสูตรนายกฯ คนละครึ่ง ลั่นต้องทำด้วยตัวเอง ไม่ขอเป็นทายาทใคร

(3 ม.ค. 65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกระแสการวิเคราะห์ว่าพรรคภูมิใจไทยอาจได้เสียงมาเป็นอันดับ 1 ของขั้วรัฐบาลเดิม จะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเลยหรือไม่ว่า เป็นเพียงการวิเคราะห์เท่านั้น ใครจะวิเคราะห์อย่างไรพรรคภูมิใจไทยก็จะเดินไปแบบนี้ ทำนโยบายแบบนี้ เราอาจจะไม่เด่นในเรื่องของพรรคที่มีกระแส เราก็ต้องเน้นเรื่องสมาชิกที่อยู่ใกล้ชิดชาวบ้าน ใกล้ชิดพื้นที่ ได้รับความเชื่อถือจากชาวบ้าน สมาชิกเหล่านี้ถือเป็นฟันเฟืองของพรรคภูมิใจไทย ในฐานะของผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นี่คือการที่พรรคภูมิใจไทยเข้าถึง และสื่อสารกับชาวบ้าน

ขณะเดียวกันชาวบ้านก็สื่อกับพรรคภูมิใจไทยผ่านสมาชิกเหล่านี้ ในเมื่อเราไม่ทราบว่ากระแสเราแข็งแรงขนาดไหน แต่อย่างน้อยเราก็มีสิ่งที่เชื่อมต่อกับประชาชนได้

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ถ้าพรรคภูมิใจไทยสามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และ ได้ส.ส.จำนวนมากกว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รสทช.) ที่คาดว่าชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม เป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือ พรรคพลังประชารัฐ ที่คาดว่าชู พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นแคนดิเดตนายกฯ นายอนุทิน จะเป็นนายกฯ หรือไม่ หรือจะดูบริบททางการเมืองประกอบด้วย

พร้อมตอบเรื่องงาน ‘อนุทิน’ เผย พร้อมแจงอภิปราย ม.152 ลั่น!! ทำงานเต็มที่ ไม่มีเสียหายต่อประชาชน

(3 ม.ค. 65) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเตรียมความพร้อมการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ภายใต้ยุทธการถอดหน้ากากคนดี ว่า ต้องเตรียมความพร้อม ต้องดูว่าผู้อภิปรายอภิปรายเรื่องอะไร หากอภิปรายเรื่องงานที่ทำมา ทุกอย่างก็พร้อมที่จะตอบ ตนคิดว่าพวกเราทำงานเต็มที่ ในส่วนที่รับผิดชอบไม่มีประเด็นอะไรที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับพี่น้องประชาชน ฉะนั้น หากเป็นการอภิปรายกล่าวหา ก็ชี้แจงด้วยข้อเท็จจริง หากอภิปรายด้วยคำแนะนำก็ควรรับฟัง ถ้าเป็นประโยชน์ก็เอาไปช่วยปฏิบัติ

‘เสี่ยหนู’ ปฏิเสธข่าวจับมือกับทุกขั้วการเมือง ยัน!! ไม่เคยคุยกับใคร - รอผลเลือกตั้งอย่างเดียว

(3 ม.ค. 65) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวที่พรรคภูมิใจไทยพร้อมจับมือกับทุกขั้วพรรคการเมือง ว่า เป็นเพียงการวิเคราะห์ของผู้สื่อข่าว ใครเขาจะออกมาให้สัมภาษณ์ จะพูดเช่นนั้นได้อย่างไร คนที่อยากเห็นบ้านเมืองเจริญก้าวหน้าก็ควรบอกว่าไม่ควรมีความขัดแย้ง ไม่ควรมีการแบ่งขั้ว ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้สื่อข่าวจึงเอาตนไปพูดว่าพร้อมจับมือกับทุกขั้ว ตนไม่เคยพูดสักคำ ตนพูดอยู่คำเดียวตลอดเวลา และย้ำมาตลอดหลายครั้งว่า ต้องรอผลเลือกตั้ง แล้วผลการเลือกตั้งจะเป็นตัวกำหนดว่าเราควรจะไปทางไหน

เมื่อถามว่า ไม่ปิดประตูสำหรับทุกด้าน ทุกฝ่ายใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราไม่นิยมความขัดแย้ง เราไม่ต้องการทะเลาะเบาะแว้งกับใคร เราไม่ต้องการสร้างความจงเกลียดจงชังระหว่างกัน ฉะนั้น ที่ดีที่สุดคือรอผลการเลือกตั้ง ตนต้องปฏิเสธข่าว 2-3 วันที่ผ่านมา ช่วงปีใหม่ไม่รู้ว่าจะไปแก้ข่าวอย่างไร

“ที่บอกว่าอนุทินไปเอ่ยชื่อพรรคก้าวไกล ไม่มีคำว่าก้าวไกลออกจากปากผมเลย จนถึงวินาทีนี้ แต่ละพรรคมีนโยบายอย่างไรก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรค ส่วนแนวทาง ทิศทางของพรรคการเมือง ผมเชื่อว่าทุกพรรคก็ต้องรอผลการเลือกตั้ง” นายอนุทิน กล่าว 

‘อนุทิน’ แจงมาตรการป้องกันโควิดรับนักท่องเที่ยวยึดหลักเท่าเทียมทุกชาติ เน้นรับวัคซีน มีประกันสุขภาพ ตรวจสายพันธุ์ไวรัสในน้ำเสียจากเครื่องบินเพื่อการเฝ้าระวัง

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แจงมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน เตรียมเสนอวันที่ 5 มกราคมนี้ ยึดหลักปฏิบัติเท่าเทียมกันทุกชาติและเป็นไปตามมาตรฐานทางวิชาการ ตรวจเฝ้าระวังเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ในน้ำเสียจากเครื่องบิน ผู้เดินทางต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม มีประกันสุขภาพครอบคลุมการรักษาโควิด-19 พร้อมสื่อสารมาตรการป้องกันตนเอง คาดนักท่องเที่ยวจีนจะทยอยเดินทางมาไตรมาสแรก 3 แสนคน สามารถวางแผนรับมือได้อย่างเป็นระบบ

(4 ม.ค.66) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 และการเตรียมความพร้อมรองรับผู้เดินทางจากประเทศจีน ภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข ว่า สถานการณ์โรคโควิด 19 ของประเทศไทยมีแนวโน้มลดลง โดยข้อมูลวันที่ 25-31 ธันวาคม 2565 มีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 2,111 ราย เฉลี่ย 301 รายต่อวัน ผู้ป่วยปอดอักเสบ 529 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 352 ราย และผู้เสียชีวิต 75 ราย เฉลี่ย 10 รายต่อวัน โดยเกือบทั้งหมดยังเป็นกลุ่มเสี่ยง 608 ที่ไม่ได้รับวัคซีน ได้รับวัคซีนไม่ครบ ไม่ได้รับเข็มกระตุ้น หรือได้รับเข็มกระตุ้นนานเกิน 3 เดือนขึ้นไป โดยกระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้ทุกคนฉีดวัคซีนให้ครบ 4 เข็ม เว้นระยะห่างทุก 4 เดือน ซึ่งช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการรับบริการวัคซีนเพิ่มขึ้น 277,206 โดส สะสม 145,928,256 โดส โดยเป็นเข็มแรกร้อยละ 82.7 เข็มที่ 2 ร้อยละ 77.7 เข็มที่ 3 ร้อยละ 38.9 และเข็มที่ 4 ร้อยละ 9.1

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีจีนเตรียมเปิดประเทศ จากการประมาณการนักท่องเที่ยวจีนในไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม 2566) มีประมาณ 3 แสนคน คิดเป็น 5% ของนักท่องเที่ยวทุกชาติรวมกัน คาดว่ามกราคมจะเข้ามา 60,000 คน กุมภาพันธ์ 90,000 คน และมีนาคม 150,000 คน โดยจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากปัจจุบันยังมีเที่ยวบินจำกัด มีระยะเวลาในการขอทำหนังสือเดินทางและการขอวีซ่า และรัฐบาลจีนยังไม่อนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวนำกลุ่มทัวร์ออกนอกประเทศ ผู้เดินทางจะเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตัวเองและเป็นกลุ่มนักเดินทางระดับบนที่มีกำลังซื้อ

‘อนุทิน’ ย้ำ มาตรการดูแลนักท่องเที่ยวทุกชาติเท่าเทียม ชี้ ปรับตามสถานการณ์ที่เปลี่ยน วอน อย่าตั้งป้อมรับจีน เพราะไม่เคยขัดแย้งกัน

(5 ม.ค.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมเตรียมความพร้อมรับผู้เดินทางเข้าประเทศจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ ว่า วันนี้ข้อสรุปแต่ละมาตรการมีอยู่แล้ว และจะนำมาหารือและแจ้งให้แต่ละหน่วยงานทราบในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนที่จะเขามาในไทย ที่คาดว่าในต้นปีจะมีประมาณ 4-5 หมื่นคน และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้รับทราบมาตรการรองรับสถานการณ์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย และเป็นไปในแนวทางเดียวกัน แล้วจะสอบถามกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เรื่องค่าเหยียบแผ่นดิน ที่เปรียบเหมือนการทำประกันของนักท่องเที่ยว ที่จะต้องดูนักท่องเที่ยวที่เจ็บป่วย ไม่เฉพาะโควิด-19 จะมีผลบังคับใช้เมื่อไหร่ จะได้มีงบประมาณดำเนินการ ขณะที่ระบบสาธารณสุขของไทย ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ก็มีงบประมาณก้อนหนึ่งสำหรับดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่านักท่องเที่ยวจีนจะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทันทีที่ถึงสนามบินหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้กรมควบคุมโรค จะกำหนดมาตรการออกมาตามสถานการณ์ และจะมีข้อกำหนดเป็นแนวทางปฏิบัติ และต้องทำเต็มที่กับทุกประเทศอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

เมื่อถามว่ามาตรการป้องกันกรณีที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาครั้งนี้แตกต่างจากที่ผ่านมาอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เราจะใช้มาตรการที่มีอยู่เดิมให้มากที่สุด และเรารับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะกับจีน แต่อีกทางจะต้องเน้นที่ตัวเองต้องหุ้มเกราะ คือฉีดวัคซีนให้เรียบร้อยก่อน อย่างน้อย 4 เข็มเพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงโดยสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะและพื้นที่แออัด ในส่วนของนักท่องเที่ยวจีน เขามีการตรวจก่อนเดินทางออกนอกประเทศและเมื่อกลับเข้าประเทศ ในขณะที่สถานทูตจีน ได้ประสานกับโรงพยาบาลที่จะทำการรักษาไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้นักท่องเที่ยว ที่เข้ามาสามารถเดินทางไปได้ทั่วประเทศ ไม่ได้แบ่งว่าเป็นนักท่องเที่ยวชาติไหน เพราะเราถือว่าเป็นนักท่องเที่ยวทั้งหมด แต่ละคนก็มาจากประเทศที่มีการติดเชื้ออยู่ที่ว่าจะเป็นเชื้อใหม่หรือเก่า ถ้าเป็นเชื้อใหม่ มาตรการรับมือก็เปลี่ยนได้ ดังนั้นอย่านำมาตรการของไทยไปเทียบกับประเทศอื่น เพราะนี่ประเทศไทยไม่เหมือนกัน


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. North Time Thailand
Take Me Top