Thursday, 9 May 2024
พรรคภูมิใจไทย

‘ศักดิ์สยาม’ เปิดตัว รถโดยสารพลังงานไฟฟ้าสาย 38 และสาย 48 ช่วยคนกรุงใช้บริการทันสมัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

(30 ม.ค.66) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิด ให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าสาย 38 เส้นทางมหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และสาย 48 เส้นทางมหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา – ท่าช้าง ภายใต้แนวคิด Thai Smile Bus Change For The Better เปลี่ยนเพื่อสิ่งที่ดีกว่า ณ ไทย สมายล์ บัส สาขา รามคำแหง 2

ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้แสดงความเชื่อมั่นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของระบบขนส่งมวลชนไทย ทั้งการเปลี่ยนรถโดยสาร NGV ของบริษัท สมาร์ทบัส จำกัด มาเป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ของกลุ่มบริษัท ไทย สมายล์ กรุ๊ป พร้อมทั้งเปลี่ยนระบบการเก็บค่าโดยสารจากตั๋วแบบกระดาษ มาเป็น HOP CARD ซึ่งเป็นบัตรโดยสารอิเล็คทรอนิคส์ สำหรับใช้ในโครงข่ายรถและเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ของ ไทย สมาย กรุ๊ป ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชนให้มีความทันสมัย สะดวกสบาย ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของกลุ่มบริษัท ไทย สมายล์ กรุ๊ป เปิดเผยว่าปัจจุบัน ไทย สมายล์ กรุ๊ป กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนเพื่อสิ่งที่ดีกว่า (Change For The Better) ประการแรก คือ ไทย สมายล์ กรุ๊ป ได้ผนึกกำลังกับ บริษัท สมาร์ทบัส จำกัด และจะทำการเปลี่ยนรถโดยสาร NGV ของสมาร์ทบัส ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ให้กลายเป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า 100% และประการที่สอง คือ ไทย สมายล์ กรุ๊ป จะยกเลิกการใช้ตั๋วแบบกระดาษ เปลี่ยนไปใช้ HOP Card ชำระค่าโดยสารตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

นอกจากจะเป็นการอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนด้วยระบบสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ผู้โดยสารที่ใช้ HOP Card ยังสามารถใช้แพ็คเกจ เดลิ แมกซ์ แฟร์ (Daily max fare) ทั้ง 2 แพ็คเกจ คือ แพ็คเกจที่หนึ่ง เหมาจ่ายค่าโดยสารไม่เกิน 40 บาทต่อวัน โดยไม่จำกัดสาย และไม่จำกัดจำนวนเที่ยว ในโครงข่ายรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ไทย สมายล์ กรุ๊ป กว่า 120 เส้นทาง แพ็คเกจที่สอง เหมาจ่ายค่าโดยสารไม่เกิน 50 บาทต่อวัน โดยไม่จำกัดสาย และไม่จำกัดจำนวนเที่ยวต่อวัน ในโครงข่ายรถและเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า ไทย สมายล์ กรุ๊ป

‘รมช.มนัญญา’ เคาะ 86 ลบ. ช่วยเกษตรกรอุทัยธานี บรรเทาความเดือดร้อน หลังประสบภัยพิบัติ

(4 ก.พ.66) นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาสเป็นประธานพิธีมอบเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตรจังหวัดอุทัยธานี โดยมี นายอลงกต วรกี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี, นายธนะสิทธิ์ ธนากีรตินันท์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุทัยธานี หัวหน้าส่วนราชการ และเกษตรกรจำนวน 240 คน เข้าร่วม ณ หอประชุมอาคารภักดี เทศบาลตําบลสว่างอารมณ์ อ.สว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี ว่า...

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีภารกิจหลักในการช่วยเหลือเยียวยาให้กับเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติต่าง ๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร ตลอดจนส่ง เสริมสนับสนุน ปัจจัยพื้นฐานทางการเกษตร โดยในปี 2565 ที่ผ่านมา จังหวัดอุทัยธานีมีเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยพิบัติด้านการเกษตร ส่งผลให้ได้รับความเดือดร้อนทั้งด้านพืช ด้านประมง และด้านปศุสัตว์ ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 8 อำเภอ วงเงินขอความช่วยเหลือ จำนวน 187,019,539.50 บาท ซึ่งจังหวัดอุทัยธานีได้รับการอนุมัติโอนเงินช่วยเหลือแล้ว จำนวน 86,221,714.50 บาท ได้แก่...

1.) ด้านพืช เกษตรกรได้รับเงินรวม 3,173 ราย วงเงิน 85,719,118 บาท 

2.) ด้านประมง เกษตรกรได้รับเงินรวม 19 ราย วงเงิน 108,856.50 บาท

และ 3.) ด้านปศุสัตว์ เกษตรกรได้รับเงินรวม 22 ราย วงเงิน 393,740 บาท ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างขออนุมัติขยายวงเงินจากกรมบัญชีกลาง เพื่ออนุมัติโอนเงินให้แก่เกษตรกรต่อไป

'ภูมิใจไทย' ยัน!! ไม่คิดล้มร่าง พรบ.ประมง โวย!! ถูกบิดเบือนทั้งที่พร้อมหนุนและลงมติ

(4 ก.พ.66) นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่เคยระบุว่าหากร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง (ฉบับที่…) พ.ศ… ไม่ผ่านจะไม่เป็นองค์ประชุมให้ในการพิจารณากฎหมายต่างๆ แล้วในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 จะเป็นองค์ประชุมให้หรือไม่ ว่า ในสัปดาห์หน้าไม่มีวาระการพิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ แต่ในวันจันทร์ที่ 6 ก.พ. นี้ เราจะมีการประชุมพรรค ซึ่งเราต้องรอดูว่าวิปรัฐบาลจะแสดงจุดยืนอย่างไร ซึ่งตนเคยแถลงไปแล้วว่าหลังจากมีปัญหา ทางวิปรัฐบาลจะทำอย่างไร ซึ่งเราได้ส่งสัญญาณไปยังวิปรัฐบาลแล้ว

เมื่อถามว่า ในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 จะได้เห็น พรรค พท.ลงชื่ออภิปรายด้วยหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า “ยังคิดอยู่ครับ ยังไม่ได้คุยกัน ซึ่งความชัดเจนในเรื่องนี้ก็คงจะเป็นวันจันทร์ที่จะถึงนี้”

ย้อนไทม์ไลน์!! แผนแก้ฝุ่นพิษ 2.5 'พรรคภูมิใจไทย' เปลี่ยนรถเมล์ EV กว่า 1,250 คัน ยังแค่ออเดิร์ฟ!!

สิ่งที่คล้ายหมอก คล้ายควัน ที่กำลังคลุมทั่วท้องฟ้ากรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทยนั้น ใคร ๆ ต่างก็ทราบดีว่ามันคือ ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กลับมาทุก ๆ ปี และคงไม่ต้องสาธยายว่ามันคือ ต้นเหตุของปัญหาระบบทางเดินหายใจ และต้นเหตุของมะเร็งปอดที่คร่าชีวิตคนไทยไปนับไม่ถ้วน ติด 1 ใน 5 ของโรคที่คร่าชีวิตประชาชนคนไทย

คำถาม คือ เหตุซ้ำซากเช่นนี้ ทำไมไร้แผนการ ไม่มีแผนระยะยาวเพื่อดูแลเลยหรือ? ถ้าให้ตอบโดยมีฝุ่นพิษในวันนี้เป็นตัวชี้วัด ก็คงตอบว่าใช่ แต่ถ้าจะให้ตอบว่าในอนาคตอันใกล้ อาจจะต้องบอกว่า 'มันกำลังถูกแก้' แบบยั่งยืน โดยเรื่องนี้ ต้องยอมให้กับพรรคภูมิใจไทย ที่ขับเคลื่อนผ่านกระทรวงคมนาคม

เหตุที่กล่าวเช่นนั้นเพราะ...

เท่าที่สำรวจตรวจสอบ พบว่า ขณะนี้การแก้ปัญหาฝุ่นพิษ แบบเอาจริงเอาจังนั้น ทางกระทรวงคมนาคม ที่ได้มีการตั้งด่านสกัดรถบรรทุก รถกระบะควันดำ ควันขาว จากการเผาไหม้ในห้องเครื่องที่ไม่สมบูรณ์ เป็นประจำสม่ำเสมอ ใครทำผิดก็ให้ไปแก้ไข ปรับปรุงสภาพเครื่องยนต์ แต่ไม่มีการรายงานข่าวแม้แต่น้อย ทั้งที่เป็นเรื่องที่จะสร้างจิตสำนึกให้กับคนในชาติ ขณะที่การแก้ปัญหาด้านอื่น ๆ ก็ยังมีความพยายาม

ขณะเดียวกันในส่วนของรถโดยสารประจำทาง หรือรถเมล์ เป็นส่วนสำคัญ เป็นต้นเหตุของปัญหานี้เช่นกัน เพราะรถเมล์ในเมืองไทยจำนวนหลายพันคันมีอายุหลายสิบปี สภาพเก่าแก่ เครื่องยนต์ทรุดโทรมตามกาลเวลา ปัญหารถเมล์แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ภาครัฐ ที่เป็นของ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กับ รถร่วมเอกชน

เอาในส่วนของภาครัฐ กระทรวงคมนาคม พยายามทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง ยุค โสภณ ซารัมย์ เป็น รมว.คมนาคม พยายามเสนอเปลี่ยน รถ ขสมก.เป็นรถเมล์พลังงานสะอาด ใช้ก๊าซ NGV แต่ก็ถูกคัดค้านตีตกไปจาก พรรคพวกดีแต่พูด ไม่เคยมีผลงาน

พอมายุค ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็น รมว.คมนาคม ก็พยายามเสนอให้ ขสมก.เปลี่ยนจากรถพลังงานดีเซล เป็น รถพลังงานสะอาด ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าหรือ EV ทั้งระบบ เชื่อมต่อ รถ ราง เรือ พร้อมกับการปฏิรูปเส้นทาง ขสมก.ใหม่ทั้งระบบ แต่ก็ถูกหน่วยงานอย่าง สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ไม่ทราบทำงานเช้าชาม เย็นชามอย่างไร เรื่องนี้เข้าไปค้างคามาถึง 2 ปีแล้ว เป็น 2 ปีแห่งการสูญเสียโอกาส สูญเสียชีวิต ของประชาชน ทั้งทางตรงและทางอ้อม


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. North Time Thailand
Take Me Top