กลุ่มรักษ์เชียงของและประชาชนเชียงของจำนวนหนึ่งไม่เห็นด้วยกับการที่จะถูกแบ่งออกเป็น 2 เขต

ภายหลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย (กกต.เชียงราย) ได้ประกาศรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงรายแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ปี พ.ศ. 2566 เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2566 โดยแบ่งเขตเลือกตั้งเป็น 7 เขต

 

โดย กกต.ได้จัดทำรูปแบบการแบ่งเขตเป็น 3 รูปแบบ และออกประกาศรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและพรรมการเมืองในพื้นที่ แต่ปรากฏว่าทั้ง 3 รูปแบบ พื้นที่อำเภอเชียงของได้ถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนเพื่อไปรวมกับเขตอำเภออื่น ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และเสียงคัดค้านอย่างกว้างขวาง

 

นายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของ และภาคประชาสังคมเชียงของ กล่าวว่า จากการพิจารณาแล้วพบว่าทั้ง 3 รูปแบบที่ทาง กกต.เชียงรายประกาศนั้น พื้นที่อำเภอเชียงของถูกแบ่งเป็น 2 เขตเลือกตั้ง ทางกลุ่มรักษ์เชียงของและประชาชนเชียงของจำนวนหนึ่งไม่เห็นด้วยกับการที่จะถูกแบ่งออกเป็น 2 เขต ด้วยเหตุผล

 

1. การแบ่งเขตเลือกตั้งนั้นมีนัยะสำคัญเกี่ยวพันกับการกำหนดการพัฒนาอำเภอเชียงของในอนาคต หากการแบ่งเขตครั้งนี้เมืองเชียงของถูกแยกพื้นที่เลือกตั้งในขณะที่เชียงของเป็นเมืองหน้าด่านด้านคมนาคมขนส่งเชื่อมต่อเส้นทาง R3A ที่เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ภูมิภาค และเมืองที่จะต้องพัฒนาในรูปแบบความเป็นวัฒนธรรมวิถีที่มีแนวทางเป็นของตัวเอง ที่มีความเป็นมาแต่อดีตแล้วแต่กลับถูกแบ่งออกไปจึงมีคำถามว่าผู้แทนทั้ง 2 คน จะดูแลและปฏิบัติไปในแนวทางใดกับอำเภอเชียงของในด้านการพัฒนา ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของกล่าวว่า

 

2. เป็นการเสียโอกาสของคนในพื้นที่ที่จะมีตัวแทนที่เข้าใจความเป็นท้องถิ่นอย่างชัดเจนในความเป็นเมืองหน้าด่าน การแบ่งเชียงของเป็น 2 เขตเหมือนเป็นการตัดตอนเมื่อมีการแบ่งเขตออกไป คนเชียงของจึงต้องการรับทราบเหตุผลในการแบ่งเชียงของที่เป็นเมืองที่มีหน่วยงานองค์กรที่เกี่ยวข้องที่ดำเนินการดูแลครอบคลุมพื้นที่อย่างเป็นระบบ เมืองเชียงของนั้นสำคัญที่จะต้องมีความเป็นหนึ่งที่จะพัฒนาไปในทางเดียวกัน จึงไม่ควรแยกเชียงของเป็น 2 เขต

 

“การแบ่งเขตลักษณะนี้เป็นเรื่องประโยชน์ใดในทางการเมืองหรือไม่นั้น ผมไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่หากมองในฐานะประชาชนคนท้องถิ่นเห็นว่ามันไม่ถูกต้อง ดังนั้นทางกลุ่มรักษ์เชียงของ พวกเราได้รับฟังเสียงประชาชนได้พื้นที่ และเตรียมส่งหนังสือเพื่อเสนอแนะ และยืนยันจุดยืนในฐานะคนเชียงของ ให้ กกต.ทบทวนการแบ่งเขตเลือกตั้งครั้งนี้ใหม่ที่ควรจะมีรูปแบบไม่แบ่งเชียงของเป็น 2 เขตเลือกตั้ง” นายนิวัฒน์ กล่าว

 

ขณะที่นายปรพล พูตระกูล ผอ.กกต.เชียงราย กล่าวว่า กต.เชียงราย พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน องค์กร และพรรคการเมืองในพื้นที่หากมีข้อเสนอและข้อแนะนำสามารถเขียนในแบบฟอร์มรับฟังความคิดเห็นให้เลือกรูปแบบที่เหมาะสมจากที่ กกต.เชียงรายเสนอ ส่วนการแบ่งเขตนั้นแบ่งตามหลักการเงื่อนไขจำนวนประชากร และจะต้องมีอำเภอที่มีถูกแบ่งเป็น 2 เขต ภายใต้ข้อจำกัด

 

อย่างไรก็ตามหากมีองค์กร หรือประชาชนมีความเห็นในการแบ่งรูปแบบที่แตกต่างสามารถเสนอความเห็นมาได้ภายในเวลาที่กำหนดคือ 13 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการตั้งข้อสังเกตจากหลายภาคส่วนทั้งตัวแทนผู้สมัครที่เห็นว่า มีความไม่เหมาะสมในเรื่องภูมิประเทศและพื้นที่ในการเดินทางดูแล#นอร์ทไทม์ ละเชียงของเป็นเมืองหน้าด่าน และเป็นเมืองหลักจึงไม่ควรถูกแบ่ง เมื่อเทียบกับการแบ่งเขตในการเลือกตั้ง ส.ส.ในปี 2562 นั้น เชียงของอยู่ในเขต 5 ยกอำเภอ

 

แต่การแบ่งเขตในครั้งนี้ถูกแบ่งเป็นเขต 5 และเขต 7 จะมีรูปแบบเปลี่ยนไป ในการแบ่งเขตครั้งนี้ เชียงของจะถูกแบ่งไปรวมกับ แม่สายและเชียงแสน ที่เป็นเมืองยุทธศาสตร์ 3 เมืองชายขอบเขตเศรษฐกิจพิเศษ จากเดิมที่แบ่งตามภูมิประเทศที่มีความสะดวกในการเดินทาง

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเลือกตั้งในอดีตพื้นที่อำเภอเชียงของไม่เคยถูกแบ่งเขตไปไว้ที่อื่น ขณะนี้เริ่มมีความเคลื่อนไหวในกลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้านและผู้นำชุมชนที่ไม่เห็นด้วยกับการแบ่งพื้นที่เชียงของ และได้เตรียมร่วมกันลงชื่อเพื่อนำเสนอต่อ กกต. โดยเฉพาะ ต.ห้วยซ้อ ต.บุญเรือง และ ต.ครึ่ง ที่มีการเคลื่อนไหวกันอย่างกว้างขวาง