พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่ที่จังหวัดกำแพงเพชร

วันที่ 26 มี.ค. 2566 - พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่ที่จังหวัดกำแพงเพชร ที่ลานตลาดนัดวันอาทิตย์ อ.เมือง นําโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และนายวราเทพ รัตนากร กรรมการฝ่ายนโยบาย

 

โดยมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร จ.กำแพงเพชร ทั้ง 4 เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน ประกอบไปด้วย นายสุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท์ นายไผ่ ลิกค์ เขต 1,นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ เขต 2 นายอนันต์ อำนวยผล เขต 3 นายปริญญา ฤกษ์หร่าย เขต 4

 

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ฝากไปบอกพรรคอื่นด้วยว่า อย่าคิดมาตีจังหวัดกำแพงเพชร มันเป็นไปไม่ได้ เพราะเราจะสร้างป้อมหน้ากำแพงเพชร ใครเข้ามาเรามีป้อม เราจะกันให้หมด ซึ่งพรรคหัวหน้าพรรคเราชื่อ ลุงป้อม เอาสิ เราจะตั้งป้อมหน้ากำแพงเพชร ไม่ให้ใครมาตีกำแพงเพชรให้ได้ นโยบายสำคัญของเราคือการก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่เอาแล้วสีเหลืองสีแดง สีน้ำเงิน ประเทศไทยต้องเป็นหนึ่งเดียว เรามีธงชาติธงเดียวสามสี แดงขาวน้ำเงิน สามเสาหลักต้องอยู่คู่บ้านคู่เมือง ดังนั้นเราจะก้าวข้ามความขัดแย้งนำประเทศไทยไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่งอย่างยังยืน

 

“พรรคอื่นอย่าคิดเข้ามาตีกำแพงเพชร เพราะจังหวัดนี้เป็นของพรรคพลังประชารัฐ”

 

จากนั้น เวลา 17:57 น. พล.อ.ประวิตร ได้เดินทางมาถึงบริเวณเวทีปราศรัย ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีกระแสข่าวว่าป่วยต้องให้หมอเข้าไปรักษา ในบ้านป่ารอยต่อว่า ไม่ได้ป่วย ยังแข็งแรงดี พร้อมย้อนถามผู้สื่อข่าวว่าใครเป็นคนบอก จากนั้นได้เดินทักทายประชาชน พร้อมขึ้นรถยกไฮดรอลิก เมื่อถามว่า หวาดเสียว หรือไม่ พล.อ.ประวิตรระบุว่าไม่เสียวโดดลง ยังได้

 

พล.อ.ประวิตร ได้ขึ้นเวทีปราศรัยกล่าวกับประชาชนว่า ตนรู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมากที่ได้มาอยู่ท่ามกลางชาวจังหวัดกำแพงเพชร เราจะทำทุกอย่างเพื่อจะก้าวข้ามยากจน พวกเราพร้อมแล้วที่จะมาทำงานให้กับชาวกำแพงเพชร เราจะร่วมมือกันที่จะพัฒนาจังหวัดกำแพงเพชรให้เจริญอย่างยั่งยืน พรรคพลังประชารัฐได้คัดสรรคนดี คนเก่งที่จะมาเป็นตัวแทนของประชาชน ขอให้เลือกผู้สมัครของเราทั้ง 4 คนด้วย

 

“ขอโอกาสจากทุกคน เราจะนำความรัก ความสามัคคีมาสู่ประเทศชาติหมดเวลาแล้วที่คนไทยจะมาทะเลาะกันเอง ต้องจับมือกัน นำประเทศไปสู่ก้าวหน้า เพื่อความสงบของคนไทยทุกคน ฝากกับทุกคนว่า ถ้าอยากให้ประเทศมีความรัก สงบสุข สันติภาพเกิดขึ้น และมีความเป็นหนึ่งเดียวต้องเลือกพรรคพลังประขารัฐเท่านั้น ผมพูดไม่เก่ง แต่ทำงานประสานเพื่อประโยชน์ของประชาชนได้ และนำพาคนเก่ง ๆ มาทำงานให้กับประชาชนได้”

 

จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้ลงเวทีทางบันได เมื่อถามว่า ได้เห็นผลสำรวจของนิด้าโพล ถึงคนกรุงเทพฯ ที่ ไม่ปรากฏชื่อตนอยู่ในลิสต์ 10 อันดับแรกว่าอย่างไร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เขาเอาชื่อออก ๆ และให้ไปถามคนจัดโพลเอง และยืนยันไม่สูญเสียความมั่นใจ และไม่ต้องปรับยุทธศาสตร์อะไร พร้อมยืนยันว่ากระแสนิยมของตนนั้นดีขึ้นตลอด ส่วนผลโพล เชื่อได้หรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตรระบุว่า ก็ว่ากันไปเรื่องของโพลก็คือเรื่องของโพล และมั่นใจในกระแสของตัวเองและประชาชน

 

ส่วนพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 หรือไม่นั้นให้เป็นเรื่องของประชาชนเลือก หากประชาชนเลือกก็พร้อม ก่อนที่จะย้อนสื่อมวลชนว่าคุณเลือกหรือไม่ ส่วนกระแสข่าวที่มีรายชื่อ 100 อันดับแรกปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคพลังประชารัฐหลุดออกมาแล้ว พล.อ.ประวิตร บอกว่าไม่รู้ ส่วนจะมีการปรับอีกหรือไม่ พล.อ.ประวิตรระบุจะปรับได้อย่างไรเขาทำไพรมารีโหวตกันแล้ว

 

เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ที่พึ่ง สละสิทธิ์ในลำดับปาร์ตี้ลิสต์หรือยัง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ให้คุยเรื่องอะไร เขาสมัครใจออกเอง เค้าไม่น้อยใจหรอก เมื่อถามว่าอาจารย์แหม่มงอนหรือไม่ พล.อ.ประวิตร หันหน้ามาหาผู้สื่อข่าว และระบุว่า ไม่งอนไม่งอน

 

เมื่อถามว่าจากรายชื่อที่ พล.อ.ประวิตรเป็นอันดับหนึ่งของบัญชีรายชื่อนั้นพร้อมที่จะทำงานในสภาแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า "ไม่รู้"

 

สำหรับบริเวณหลังเวทีการปราศรัย นายไผ่ ลิกค์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กำแพงเพชรเขต 1 และ ร.อ.ธรรมนัส ได้ทดลองขึ้นลิฟท์เคลื่อนที่ รถยกไฮดรอลิก เพื่อนำพลเอกประวิตรขึ้นเวที พร้อมการันตีว่ามีความแข็งแรง