นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ออกเดินสายหาเสียงสนับสนุนผู้สมัครของพรรคก้าวไกลอย่างต่อเนื่อง

วันที่ 8 มี.ค. 2566 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ออกเดินสายหาเสียงสนับสนุนผู้สมัครของพรรคก้าวไกลอย่างต่อเนื่อง

 

โดยวันนี้ ได้ร่วมเปิดเวทีรับฟังปัญหาจากประชาชน ที่บ้านสบเมย ต.ทาขุมเงิน อ.แม่ทา จ.ลำพูน ร่วมกับนายมานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และผู้สมัคร ส.ส.ลำพูน พรรคก้าวไกล ทั้ง 2 คน คือ นายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก และ นายชัชพีร์ วรรณาพิรัชย์

 

นายธนาธร กล่าวว่า ต.ทาขุนเงิน เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีประเด็นปัญหาการใช้ที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ ตนเห็นว่าพรรคก้าวไกลได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดตั้งแต่สมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ เช่นเดียวกับประเด็นข้อพิพาทที่ดินอื่นๆ

 

เพราะปัญหาที่ดิน เกี่ยวข้องกับชีวิตของคนนับล้าน และนั่นทำให้พรรคอนาคตใหม่มาจนถึงพรรคก้าวไกล มุ่งมีบทบาทในคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาตลอด

 

นายธนาธร กล่าวว่า จากที่ติดตามการทำงาน เห็นว่าพรรคก้าวไกลได้ไปรับฟังประชาชนผู้ได้รับผลกระทบมาตลอด 4 ปีในหลายพื้นที่ ทำให้พรรคก้าวไกลวันนี้ ได้ข้อสรุปการแก้ไขปัญหาเป็นชุดร่างกฎหมายปฏิรูปที่ดิน ตามที่มีการเผยแพร่ก่อนหน้านี้

 

รวมถึงร่างกฎหมายเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด อันเป็นผลมาจากการตกผลึกร่วมกันว่าทางแก้ปัญหาไม่ใช่การออก ส.ป.ก. เพิ่ม แต่คือการทำให้ ส.ป.ก. เป็นโฉนด แก่ประชาชนที่ควรต้องได้รับสิทธินั้น ในกรณีที่ตามเอกสารยังเป็นชื่อผู้ใช้ประโยชน์เดิมหรือทายาทที่ได้รับสิทธิโดยชอบธรรม และจำกัดไม่ให้เปลี่ยนเกิน 50 ไร่ต่อเจ้าของสิทธิ เพื่อไม่ให้นายทุนฉวยโอกาส

 

นายธนาธร กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่ทั้งพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล ได้รับบทเรียนมาจากการทำงานตลอด 4 ปี คือนโยบายต่างๆ ที่ต้องการผลักดันผ่านสภา หากไม่ผลักดันตั้งแต่ปีแรก ก็มีโอกาสยากมากที่จะผ่าน เพราะวาระการประชุมของสภามีหลายเรื่อง เต็มไปด้วยการยื่นเข้ามาแทรกคิวที่วางลำดับไว้

 

ตนทราบจาก ส.ส. พรรคก้าวไกลว่า ในการเลือกตั้งรอบนี้ พรรคได้เตรียมร่างกฎหมายสำหรับนโยบายของพรรคที่ต้องการผลักดันไว้แล้วราว 40 ฉบับ หลังเปิดประชุมสภา พรรคพร้อมยื่นร่างกฎหมายทั้งหมดเข้าสภาทันที เพื่อให้ทันพิจารณาภายในวาระ 4 ปีของสภา ให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

 

โดยมีร่างกฎหมายทั้งเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชน การปฏิรูปกองทัพ เอาทหารออกจากการเมือง ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เรื่องคุณภาพชีวิตของประชาชน เช่น การทำน้ำประปาดื่มได้ในระดับประเทศ การปลดล็อกท้องถิ่น การปฏิรูประบบราชการ เป็นต้น

 

นายธนาธร เห็นว่ากฎหมายแต่ละฉบับจะผ่านหรือไม่ผ่านนั้น ขึ้นอยู่กับเสียงสนับสนุนในสภา ว่าจะมีถึง 251 เสียงเป็นอย่างน้อยหรือไม่ ซึ่ง 4 ปีที่ผ่านมา จากอนาคตใหม่จนถึงก้าวไกล เรายึดมั่นในความเชื่อหนึ่งมาตลอดว่า ประเทศไทยที่ดีกว่านี้เป็นไปได้ และการลงทุนที่ถูกที่สุดคือ การหย่อนบัตรเลือกตั้ง เป็นการลงทุนที่คุ้มที่สุดในการกำหนดอนาคตของประเทศ ถ้าอยากเห็นประเทศไทยในอนาคตแบบเดียวกับที่เราอยากสร้าง ขอให้ใช้สิทธิเสรีภาพให้เป็นประโยชน์ ร่วมสร้างประเทศไทยที่ดีกว่านี้ไปด้วยกัน