Friday, 29 March 2024
POLITICS

‘อนุทิน’ เปิดบ้านต้อนรับ ‘วีระกร-ฑีฆะพล’ ชี้!! อุดมการณ์เดียวกัน - พร้อมรับใช้ปชช.

(11 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรค ร่วมต้อนรับนายวีระกร คำประกอบ ว่าที่ผู้สมัครส.ส. เขต 2 จ.นครสวรรค์ และนายฑีฆะพล ทวีเกื้อกูลกิจ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 จ.ตาก ที่ได้เดินทางสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย โดยเป็นการสมัครสมาชิกพรรคแบบตลอดชีพ ก่อนที่นายอนุทิน จะสวมเสื้อแจ็คเก็ตพรรคภูมิใจไทยให้กับนายวีระกร และนายฑีฆะพล เพื่อเป็นการต้อนรับในฐานะสมาชิกพรรคอย่างเป็นทางการ

จากนั้น นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ถึงความมั่นใจในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หลังมีสมาชิกเข้ามาเพิ่มเติมอีก 2 คน ว่า เราต้องไม่พูดว่ามีผู้สนใจเข้ามา แต่เราต้องพูดว่ามีผู้ที่พร้อมจะดูแลรับใช้พี่น้องประชาชน คนที่จะเข้ามาทำงานที่พรรคภูมิใจไทยต้องศึกษานโยบาย และเจตนารมณ์ของพรรคภูมิใจไทย ใครก็ตามที่มีความตั้งใจจะรับใช้บ้านเมือง รับใช้ประชาชนก็ถือว่าเป็นที่ต้อนรับของมวลหมู่สมาชิกพรรคภูมิใจไทยทุกคน

เมื่อถามว่า จะมีสมาชิกเข้ามาเพิ่มหลังจากนี้อีกหรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคเราเปิดรับผู้ที่พร้อมรับใช้บ้านเมือง และประชาชน ซึ่งตามกฎหมายได้กำหนดชัดเจนว่า จะต้องเป็นสมาชิกพรรคภายในกี่วัน คนที่เข้ามาเป็นสมาชิกไม่จำเป็นต้องเป็นผู้สมัครอย่างเดียว แต่เรายังมีเรื่องที่ต้องขับเคลื่อนเพื่อบ้านเมืองอีกด้วย

เมื่อถามถึงการทาบทามนายวีระกร นายอนุทิน กล่าวว่า ในส่วนของการทาบทามคงไม่มี เพียงแต่ได้พบเจอกันที่รัฐสภา และมีโอกาสไปเปิดโรงพยาบาลที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ และนายวีระกรก็ได้พาตนไปแนะนำให้รู้จักกับคนนครสวรรค์จำนวนมาก ต่างฝ่ายต่างเห็นการทำงานให้กับประชาชน ก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

‘อนุทิน’ เผย ไม่ใส่ใจพรรคอื่นพูดให้ร้าย ภท. ลั่น!! เป็นหน้าที่ฝ่ายกฎหมายพรรค ‘พิจารณา - เอาผิด’

(10 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 09.25 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย เตรียมยื่นร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย เพื่อดำเนินการเอาผิดกรณีที่ใส่ร้ายป้ายสีหัวหน้าพรรค และพรรคภูมิใจไทย ว่า ตนไม่ได้ใส่ใจ แต่เป็นเรื่องฝ่ายกฎหมายของพรรคพิจารณาว่ามีการให้ร้าย หรือนำข้อมูลเท็จไปเผยแพร่ในสื่อสาธารณะ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและเสียหาย เอาผิดตั้งแต่คนโพสต์ คนพูด รวมไปถึงการพิจารณาถึงขั้นยุบพรรค

‘เสี่ยหนู’ ปฏิเสธข่าวจับมือกับทุกขั้วการเมือง ยัน!! ไม่เคยคุยกับใคร - รอผลเลือกตั้งอย่างเดียว

(3 ม.ค. 65) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวที่พรรคภูมิใจไทยพร้อมจับมือกับทุกขั้วพรรคการเมือง ว่า เป็นเพียงการวิเคราะห์ของผู้สื่อข่าว ใครเขาจะออกมาให้สัมภาษณ์ จะพูดเช่นนั้นได้อย่างไร คนที่อยากเห็นบ้านเมืองเจริญก้าวหน้าก็ควรบอกว่าไม่ควรมีความขัดแย้ง ไม่ควรมีการแบ่งขั้ว ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้สื่อข่าวจึงเอาตนไปพูดว่าพร้อมจับมือกับทุกขั้ว ตนไม่เคยพูดสักคำ ตนพูดอยู่คำเดียวตลอดเวลา และย้ำมาตลอดหลายครั้งว่า ต้องรอผลเลือกตั้ง แล้วผลการเลือกตั้งจะเป็นตัวกำหนดว่าเราควรจะไปทางไหน

เมื่อถามว่า ไม่ปิดประตูสำหรับทุกด้าน ทุกฝ่ายใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราไม่นิยมความขัดแย้ง เราไม่ต้องการทะเลาะเบาะแว้งกับใคร เราไม่ต้องการสร้างความจงเกลียดจงชังระหว่างกัน ฉะนั้น ที่ดีที่สุดคือรอผลการเลือกตั้ง ตนต้องปฏิเสธข่าว 2-3 วันที่ผ่านมา ช่วงปีใหม่ไม่รู้ว่าจะไปแก้ข่าวอย่างไร

“ที่บอกว่าอนุทินไปเอ่ยชื่อพรรคก้าวไกล ไม่มีคำว่าก้าวไกลออกจากปากผมเลย จนถึงวินาทีนี้ แต่ละพรรคมีนโยบายอย่างไรก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรค ส่วนแนวทาง ทิศทางของพรรคการเมือง ผมเชื่อว่าทุกพรรคก็ต้องรอผลการเลือกตั้ง” นายอนุทิน กล่าว 

พร้อมตอบเรื่องงาน ‘อนุทิน’ เผย พร้อมแจงอภิปราย ม.152 ลั่น!! ทำงานเต็มที่ ไม่มีเสียหายต่อประชาชน

(3 ม.ค. 65) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเตรียมความพร้อมการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ภายใต้ยุทธการถอดหน้ากากคนดี ว่า ต้องเตรียมความพร้อม ต้องดูว่าผู้อภิปรายอภิปรายเรื่องอะไร หากอภิปรายเรื่องงานที่ทำมา ทุกอย่างก็พร้อมที่จะตอบ ตนคิดว่าพวกเราทำงานเต็มที่ ในส่วนที่รับผิดชอบไม่มีประเด็นอะไรที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับพี่น้องประชาชน ฉะนั้น หากเป็นการอภิปรายกล่าวหา ก็ชี้แจงด้วยข้อเท็จจริง หากอภิปรายด้วยคำแนะนำก็ควรรับฟัง ถ้าเป็นประโยชน์ก็เอาไปช่วยปฏิบัติ

'เสี่ยหนู' โยน ถาม ส.ว. ให้นั่งนายกฯ หรือไม่ หากภท.จัดตั้งรบ.สำเร็จ มีเสียงเหนือพปชร. - รทสช. พร้อมปฏิเสธสูตรนายกฯ คนละครึ่ง ลั่นต้องทำด้วยตัวเอง ไม่ขอเป็นทายาทใคร

(3 ม.ค. 65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกระแสการวิเคราะห์ว่าพรรคภูมิใจไทยอาจได้เสียงมาเป็นอันดับ 1 ของขั้วรัฐบาลเดิม จะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเลยหรือไม่ว่า เป็นเพียงการวิเคราะห์เท่านั้น ใครจะวิเคราะห์อย่างไรพรรคภูมิใจไทยก็จะเดินไปแบบนี้ ทำนโยบายแบบนี้ เราอาจจะไม่เด่นในเรื่องของพรรคที่มีกระแส เราก็ต้องเน้นเรื่องสมาชิกที่อยู่ใกล้ชิดชาวบ้าน ใกล้ชิดพื้นที่ ได้รับความเชื่อถือจากชาวบ้าน สมาชิกเหล่านี้ถือเป็นฟันเฟืองของพรรคภูมิใจไทย ในฐานะของผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นี่คือการที่พรรคภูมิใจไทยเข้าถึง และสื่อสารกับชาวบ้าน

ขณะเดียวกันชาวบ้านก็สื่อกับพรรคภูมิใจไทยผ่านสมาชิกเหล่านี้ ในเมื่อเราไม่ทราบว่ากระแสเราแข็งแรงขนาดไหน แต่อย่างน้อยเราก็มีสิ่งที่เชื่อมต่อกับประชาชนได้

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ถ้าพรรคภูมิใจไทยสามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และ ได้ส.ส.จำนวนมากกว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รสทช.) ที่คาดว่าชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม เป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือ พรรคพลังประชารัฐ ที่คาดว่าชู พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นแคนดิเดตนายกฯ นายอนุทิน จะเป็นนายกฯ หรือไม่ หรือจะดูบริบททางการเมืองประกอบด้วย

'อนุทิน - ศักดิ์สยาม' ประสานเสียง พบสิ่งผิดปกติเปลี่ยนป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อสุดแพง พร้อมยกเลิกและลงโทษ

(3 ม.ค.65) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวอีกครั้งถึงกรณีที่มีการเปิดเผยถึงการลงนามในสัญญาจ้างการก่อสร้างโครงการปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อเป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย มูลค่าสูงถึง 33 ล้านบาท ว่า ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงคมนาคมไปดำเนินการตรวจสอบแล้ว แต่ป้ายมันใหญ่ ก็ต้องดูว่าราคากับปริมาณงานเป็นอย่างไรเพราะเป็นป้ายลักษณะพิเศษตัวหนังสือใหญ่ และเป็นการทำป้ายทั้งหมดหลายรายการ

เมื่อถามว่าแต่กระแสสังคมว่าแพงไป นายศักดิ์สยามกล่าวว่า คงมีการชี้แจง เพราะเรามีสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ ไม่ต้องกลัวในเรื่องเหล่านี้ ถ้าถูกก็คือถูก ถ้าผิดก็คือผิด ทั้งนี้ได้สั่งการไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ม.ค.แล้ว ไม่เกิน 7 วันก็คงทราบผล

‘อนุทิน’ ไม่ยึดติดคำอวยพร 120 เสียงของเนวิน ชี้!! พรรคตั้งใจทำนโยบาย เป็นตัวเลือกให้ประชาชน

‘อนุทิน’ ลั่นทำ ‘ภูมิใจไทย’ เป็นทางเลือก พาชาติพ้นความขัดแย้ง ขอพรรคทำให้ดีที่สุด ไม่ยึดติดคำอวยพร 120 เสียง ของ ‘เนวิน’ เชื่อแค่กลอนพาไป แจงมโนกันไปเอง โต้เสียงส.ส.ไหลเข้าเพราะกระสุนเยอะ ย้อนกลับหากชนะเลือกตั้งด้วยเงินทอง คงไม่ต้องคิดนโยบาย - ขึ้นเหนือล่องใต้หาเสียง

(29 ธ.ค. 65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการตั้งเป้าหมาย ส.ส. พรรคภูมิใจไทยเกิน 120 เสียง ตามที่ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เคยระบุไว้ หลังจากที่มีอดีต ส.ส.มาเปิดตัวเพิ่มว่า เชื่อว่าที่นายเนวินบอกว่าขอให้ได้ 120 คน ระหว่างวันเกิดครบรอบ 64 ปี ที่ จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น นายเนวินพูดขึ้นมาก็กลอนพาไปเท่านั้น ท่านเดินเข้ามาเห็นคนมาเยอะก็เลยพูดว่า 120 คงเป็นการอุปมาอุปไมย ตนอาจจะว่าทำไมตีต่ำอย่างนี้ ฉะนั้น อย่าไปยึดติดกับตัวเลขใด ๆ มีปัญญาทำพรรค ทำนโยบาย คัดเลือกผู้สมัครที่โดนใจประชาชนหรือไม่ แล้วเข้ามาได้แค่ไหน นั่นคือของจริง อีก 3 - 4 เดือนก็รู้แล้ว

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวด้วยว่า การทำการเมืองแบบพรรคภูมิใจไทย คือต้องเอาประสบการณ์ที่เลวร้าย คือความขัดแย้ง ความเกลียดชัง ฝักใฝ่ความรุนแรง ทำให้แตกความสามัคคี ของเหล่านี้พรรคภูมิใจไทยต้องไม่ทำ ถึงแม้เราจะถูกกระทำ เราจะทำได้หรือไม่ พอกันที และขอโอกาสที่จะนำประเทศออกจากความขัดแย้ง

โฆษกภูมิใจไทยแจง ‘ภูมิใจดูด’ เปรียบ ‘ใต้ฝุ่น’ เหตุ!! ผลงานเด่นดันพรรคเติบโต น่าร่วมงาน

‘ภราดร’ แจง ‘ภูมิใจดูด’ เปรียบ ‘ใต้ฝุ่น’ ก่อตัวจากหย่อมความกดอากาศต่ำ เล็ก ๆ สะสมผลงาน 4 ปี ทำสำเร็จมากมาย และนโยบายใหม่ ที่ประชาชนต้องการให้ทำ จึงมาสมัครสมาชิกพรรคกันคึกคัก ยัน ‘กัญชาเสรี เพื่อการแพทย์และเศรษฐกิจ’ ทำสำเร็จแล้ว ทั้งปลดล็อก เสนอกฎหมาย จนผ่านวาระ 1 และมีผลงานอื่น ๆ อีกมากมาย

(28 ธ.ค.65) นายภราดร ปริศนานันทกุล โฆษกพรรคภูมิใจไทย ชี้แจงกรณีที่สื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาล ตั้งฉายา ‘ภูมิใจดูด พูดแล้วดอย’ ว่า เป็นเชิงสัพยอกกันมากกว่า แต่อยากให้พิจารณาในแง่ข้อเท็จจริงด้วย โดยเฉพาะคำว่า ‘ดูด’ โดยพรรคภูมิใจไทย วันนี้คือ ‘ไต้ฝุ่น’ ใช้เวลา 4 ปีเพิ่มกำลังจากหย่อมความกดอากาศต่ำเล็ก ๆ โดยสะสมผลงาน ผ่านคำว่า ‘พูดแล้วทำ’ หลากหลายนโยบาย ฟังดูเหมือนขายฝัน แต่สามารถทำให้เกิดขึ้นจริงภายในเวลาไม่ถึง 4 ปี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเกิดแรงดึงดูดขนาดใหญ่ ทำให้เกิดความสนใจและมั่นใจจากเพื่อนส.ส. และนักการเมือง ว่าพรรคการเมืองนี้แหละ คือพรรคการเมืองที่ตอบโจทย์ประชาชน สัญญากับประชาชนแล้วสามารถทำให้เกิดขึ้นจริงได้

นายภราดร กล่าวว่า เราทำผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ หลายเรื่อง ทั้งเรื่องกัญชาเสรีทางการแพทย์ และเศรษฐกิจ ซึ่งวันนี้ประชาชนปลูกและใช้กัญชาได้จริง ๆ แล้ว มีประชาชนเข้ามาลงทะเบียนในแอปพลิเคชันปลูกกัญ กว่า 1 ล้านคน และมีคนสนใจเข้ามาเยี่ยมชม 40 กว่าล้านครั้ง, การแก้ปัญหาโควิด-19 จนนานาชาติชื่นชม ฟอกไตฟรี ผ้าอ้อมฟรีวันละ 3 ผืน ในกลุ่มผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุ, การให้สวัสดิการให้กับ อสม. แก้กฎหมายให้กับแอปพลิเคชันเรียกรถจับจ้างสาธารณะ, ค่าโง่โฮปเวล, ค่าโง่ทางด่วน, การสร้างสะพานข้ามเกาะลันตา, สะพานข้ามทะเลสาบสงขลา แก้ปัญหาให้โครงการมอเตอร์เวย์ สามารถเดินหน้าไปได้ หลังติดปัญหายาวนาน ทั้งค่าเวนคืนที่ดิน การแก้ไขแบบ, โครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์, การเตรียมการรองรับนักท่องเที่ยว ในการเปิดประเทศ จนมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากกว่า 10 ล้านคน, เรื่องการแบน 3 สารพิษภาคการเกษตร เป็นต้น

เตรียมพร้อมรับมือ!! ‘อนุทิน’ นัดถก ’คมนาคม-ท่องเที่ยว’ วางมาตรการรับจีนเปิดประเทศ

‘อนุทิน’ นัด ‘คมนาคม-ท่องเที่ยว’ หารือมาตรการด้านสาธารณสุขไทย รองรับนักท่องเที่ยวจีน ด้าน ‘ศักดิ์สยาม’ สั่ง บวท.-กพท. สรุปตัวเลขไฟลท์ของสายการบินจีน เสนอแลนด์ดิ้งเข้าไทย

(28 ธ.ค.65) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงกรณีประเทศจีนจะเปิดประเทศในวันที่ 8 ม.ค.66 ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังไทยจำนวนมากนั้น เรื่องนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข จะเชิญรมว.คมนาคมและรมว.ท่องเที่ยว ประชุมในวันที่ 5 ม.ค. เวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อกำหนดมาตรการสาธารณสุขในการรองรับการเดินทาง

“ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขไทยมีศักยภาพสูง พร้อมที่จะรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากจีนได้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกำลังประสานงานไปยังสถานทูตจีนว่าข้อเท็จจริงในการเปิดประเทศเป็นอย่างไรและจะมีมาตรการอะไรบ้าง เพื่อที่ไทยจะได้สามารถกำหนดมาตรการสาธารณสุขและกำหนดวิธีการปฏิบัติให้สอดคล้องต่อไป” นายศักดิ์สยาม กล่าว

‘อนุทิน’ วอนอย่าจับผิดภูมิใจไทย ปม ส.ส.ไหลเข้า ชี้!! ใครไปใครมา ไม่เคยด้อยค่า มีแต่ให้กำลังใจกัน

‘อนุทิน’ ขอมีน้ำใจนักกีฬาอย่าจับผิดแต่ ภท. ยันส.ส.ไหลเข้าออกไม่ใช่นวัตกรรมใหม่ วอนหยุดด้อยค่ากันเองด้วยคำว่า ‘เนรคุณ’ เพราะเท่ากับด่าประชาชน ชี้นักการเมืองต่างตอบแทนกันหมดแล้ว ถามกลับอายุเยอะแล้ว จะทะเลาะกันทำไม

เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงพรรคภูมิใจไทยในช่วงหลังปีหน้าจะมีนักการเมืองทยอยมาเข้าร่วมกับพรรคมากกว่าคราวเปิดรับสมัครสมาชิกพรรค เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมาหรือไม่ว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นได้หมด ถ้าการเมืองถึงคราวเปลี่ยนวาระหรือทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง สมัยก่อนปี 2535 คนวิ่งเข้าพรรคประชาธิปัตย์  ปี 2538 วิ่งเข้าพรรคชาติไทย ปี 2539 วิ่งเข้าพรรคความหวังใหม่ ปี 2544 วิ่งเข้าพรรคไทยรักไทย แล้วปี 2566 ถ้าคนจะวิ่งเข้าพรรคภูมิใจไทยมันแตกต่างจากอดีตตรงไหน 

“ไม่เห็นเป็นเรื่องใหม่หรือนวัตกรรมใหม่ แต่ถือเป็นเรื่องปกติ พรรคภูมิใจไทยมีทั้งคนเข้าและออก ที่เป็นส.ส. หรือผู้สมัครส.ส.ออกไปจากพรรคก็มี ทำไมตรงนี้ไม่มองว่าเป็นงูเห่าหรือพลังดูดบ้าง ไม่เห็นพูดถึง แต่พอมีคนเข้ามาพรรคภูมิใจไทยเป็นเรื่องเลย” นายอนุทิน ระบุ

นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่พรรคภูมิใจไทยแตกต่างจากพรรคอื่น คือใครจะมาใครจะไปเรายินดีหมด ใครจะไปเราถามคำหนึ่ง ถ้าเขายังยืนยันจะไป ก็ต้องบอกว่าโชคดีนะ ไปทำงานให้กับบ้านเมืองนะ ไม่มีอะไรโกรธกัน สบายใจได้ พบกันใหม่เมื่อชาติต้องการ

จุดยืนต้องชัด!! ‘เสี่ยหนู’ แง้ม เปิดรับทุกคนร่วมบ้านภูมิใจไทย พร้อมตั้งเป้าเป็นพรรคขนาดใหญ่ มีทิศทางชัดเจน

(27 ธ.ค. 65) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 66 และการเปิดตัวบิ๊กเนมที่จะเข้าร่วมกับพรรคภูมิใจไทยว่า คงเป็นไปตามขั้นตอน เราไม่ได้ปิดกั้นอะไร พรรคพร้อมเสมอสำหรับผู้ที่จะมาร่วมงานกับพรรค ด้วยนโยบาย ประสบการณ์ และความสำเร็จของพรรค เราเปิดกว้างไม่ได้ปิดประตูใส่ใครแม้แต่คนเดียว

เมื่อถามว่า ช่วงนี้หลายพรรคการเมืองเริ่มขยับเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง และการเมืองในปีหน้าจะเป็นอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ปีหน้าก็มีการเลือกตั้ง พรรคการเมืองที่ตั้งใจจะมาเป็นตัวแทนของประชาชนคงต้องทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องการนำนโยบายไปสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ทั้งการเตรียมตัวเลือกตั้ง

“มันเป็นเรื่องใหญ่นะ แผ่นป้าย แผ่นพับ ต้องทำ รูปแบบการปราศรัยแตกต่างกันไป บางพรรคปราศรัยใหญ่ บางพรรคปราศรัยย่อย บางพรรคใช้วิธีการเคาะประตู ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเอง” นายอนุทิน กล่าว

‘เสี่ยหนู’ ชี้!! ‘บิ๊กตู่’ ลงพื้นที่ทำเพื่อปชช. วอนสื่อ!! อย่ามองเป็นการแข่งขันห้ำหั่นกัน

(27 ธ.ค. 65) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่สื่อมวลชนตั้งฉายาในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ‘ภูมิใจดูด พูดแล้วดอย’ ว่าเป็นเรื่องปกติ ถ้าไม่แรงจะเป็นข่าวหรือไม่ ส่วนตัวมองเป็นสีสัน มั่นใจผู้สื่อข่าวไม่ได้จริงจังอะไร เมื่อถามย้ำการให้คะแนนฉายา ‘ภูมิใจดูด พูดแล้วดอย’ นายอนุทิน หัวเราะ ก่อนตอบว่า ‘ไม่ได้เรท’

‘อนุทิน’ ตอบข้อครหาใช้เงินดูด ส.ส. เข้าพรรค ชี้!! พรรคมีแต่ผลงาน ยิ่งทำงาน ยิ่งมีแรงดูด

(27 ธ.ค. 65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ในประเด็นการย้ายเข้าของนักการเมืองจำนวนมากจนถูกตั้งข้อครหาว่าเป็นเครื่องดูด ว่า

ในอดีตอาจจะมีพรรคการเมืองที่มีทุนหนา ตั้งขึ้นมาเฉพาะกิจ เพื่อเป้าหมายบางอย่าง แต่พรรคภูมิใจไทย เราอายุ 10 กว่าปีแล้ว เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ เราเป็นพรรคที่ยืนหยัดในถนนการเมืองอย่างมั่นคง เราทำงานเต็มที่ ค่อย ๆ สร้างความมั่นใจ ให้ประชาชน เราก้าวอย่างระมัดระวัง ส่วนคำว่าดูด เป็นคำที่ใช้กันเพื่อสร้างความน่าสนใจให้ประเด็น เวลามีการย้ายพรรค ก็ใช้คำว่าดูด

"ผมไม่เคยไปบอกว่าให้ใครมาอยู่กับเรา แลกกับเงินทอง สิ่งที่เรามีคือผลงาน และนโยบายที่เราทำสำเร็จ นโยบายของเราไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย และทำได้จริง ถ้าชอบแบบนี้ ก็มาคุยกัน" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าว

‘เนวิน’ ยก 3 เหตุผล ‘อนุทิน’ พร้อมเป็นนายกฯ หลังผ่านบทพิสูจน์ ‘พูดแล้วทำ’ จน ปชช.ยอมรับ

เมื่อวันที่ 26 ม.ค. นายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ให้สัมภาษณ์รายการ “ชั่วโมงข่าวเสาร์-อาทิตย์” ทาง Thai PBS ถึงกรณีที่จะผลักดันนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า นายอนุทิน มีความพร้อมทุกด้าน คือ 1.การศึกษา 2.ฐานะ 3.ประสบการณ์ชีวิตในการทำธุรกิจ เขาผ่านร้อนผ่านหนาวมาหมด เขาเรียนรู้มาหมด เขาอยู่มาในทุกบริบท ฉะนั้น นายอนุทินวันนี้ กับนายอนุทิน เมื่อปี 2562 เป็นคนละคน

“ผมว่าเขามีความพร้อมในการที่จะรับผิดชอบส่วนรวม ทำเพื่อส่วนรวมมากกว่าเดิม และเขาเข้าใจความรู้สึกของคนไทยในทุกระดับมากกว่าเดิม นายอนุทิน เมื่อปี 61 อาจจะเข้าใจบริบทของคนจน คนรากหญ้า คนชนบท คนต่างจังหวัดเกือบไม่เข้าใจเลย เพราะความที่เป็นเจ้าของซิโนไทยในอดีต แต่มาวันนี้บนบริบทที่ทำหน้าที่เป็นรมว.สาธารณสุข ได้ลงมาเห็นปัญหาความทุกข์ยาก เศรษฐกิจ โควิด อะไรทั้งหลายแหล่ รวมไปถึงประสบการณ์ในชีวิตเขา ผมว่าเขาพร้อมแล้ว” นายเนวิน กล่าว 

'คนเชียงราย' ปลื้ม!! 'บิ๊กป้อม' ชูนั่งนายกฯ ชี้!! สถานการณ์ประเทศวันนี้ ไม่มีใครเหมาะเท่า

เมื่อ (26 ธ.ค. 65) 11.30 น. พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รอง นรม. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย รมว.ดีอีเอส, รมช.กค., ปล.ทส. ได้เดินทางไปปฏิบัติราชการพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อติดตามความพร้อม และมอบนโยบายการรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง (PM2.5) และการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคเหนือ และจ.เชียงราย ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ GMS อาคารเจียงฮาย โดยมี นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผวจ.เชียงราย พร้อมข้าราชการและประชาชนร่วมให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ เมื่อเดินทางถึง จ.เชียงราย พล.อ.ประวิตร และคณะ ได้สักการะอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นได้เดินทางไป รับฟังการบรรยายสรุป การเตรียมความพร้อมรับมือไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองในพื้นที่ภาคเหนือ และจ.เชียงราย ประจำปี 2566 จาก ทส. จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้ง ได้กล่าวว่ารัฐบาลมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ไฟป่า และฝุ่นละออง ที่นอกเหนือจะเกิดความเสียหายแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพอนามัย ของประชาชนภาคเหนือด้วยในช่วงฤดูหนาวทุกปี จึงได้เดินทางมามอบนโยบายการป้องกันไฟป่า โดยกำชับ จังหวัดให้มีการบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จ เด็ดขาด (Single Command) และสั่งการให้ มท., ทส. และกระทรวงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้ปฎิบัติตามแผนงานที่รับผิดชอบ ทั้งการให้ความรู้ การเฝ้าระวัง การแจ้งเตือนรวมทั้งการดับไฟป่าเมื่อเกิดเหตุ ซึ่ง กห.โดย ทภ.3 จะต้องให้การสนับสนุนกำลังพลและเครื่องมือ เพื่อช่วยเหลือภารกิจของจังหวัด หน่วยงานต่าง ๆ และอาสาสมัคร ในการดับไฟป่า อย่างเต็มที่ 


© Copyright 2022, All rights reserved. North Time Thailand
Take Me Top