Thursday, 18 April 2024
NEWS

ไม่เคยแผ่ว!! ลุงตู่ ย้อนถามสื่อ เศรษฐา เก่งตรงไหน

เมื่อวันที่ 1 มี.ค.2566 - ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและนโยบายพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมกิจกรรมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร รสทช.ว่า เป็นบรรยากาศแห่งมิตรไมตรี และในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและนโยบายพรรค ได้มีโอกาสพบปะสมาชิกหลายคนหลายภาคและเป็นครั้งที่ 2 ที่ได้มาสวมเสื้อให้

 

ถือเป็นเกียรติให้กันและกัน และมีความเชื่อมั่นในบรรดาสมาชิกของพรรคที่มีหลากหลาย หลายกลุ่ม หลายวัย เพราะเราต้องการเดินหน้าทำงานให้คนทุกช่วงวัย รวมถึงกลุ่มเปราะบาง กลุ่มที่มีปัญหาต่างๆ เราต้องทำให้ทุกคนได้ประโยชน์สูงสุดจากการทำงานในอนาคต ขอขอบคุณบรรดาสมาชิก ส.ส. และขอบคุณหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค กรรมการบริหารพรรค และ ผู้ใหญ่ทุกคนที่ทำให้มีวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่มีความสุข

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคมีความพร้อมในการเลือกตั้งแค่ไหน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคบอกแล้วว่ามีความพร้อม ทันเวลาอย่างแน่นอน ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายและที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนด โดยพรรครวมไทยสร้างชาติจะส่งให้ครบ

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าตั้งเป้าได้ ส.ส.อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าตั้งเป้า แล้วไม่ได้ตามเป้าแล้วจะไปตั้งทำไม เพราะเราเชื่อมั่นว่าจะได้กว่าเป้า ส่วนเป้าที่วางไว้จะเป็นเท่าไหร่นั้นจะยังไม่บอก ทุกคนต่างหวังเช่นนั้น

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าการจะเป็นรัฐบาลได้ ส.ส. จำนวน 250 เสียงขึ้นไป พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลกติกาก็คือจะต้องได้คะแนนเสียงสูง และต้องมีทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล เสียงมากเสียงน้อยก็จะต้องขึ้นอยู่กับบทบาทการพูดคุยต่อไปว่าเป็นรัฐบาลกันอย่างไร เพราะครั้งที่แล้วก็เป็นแบบนี้ ก็ผ่านมาแล้ว

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะมีทีมเศรษฐกิจมาช่วยงานหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับทีมเศรษฐกิจนั้นมี แต่เขาไม่ให้เอ่ยชื่อ เขาขออยู่เบื้องหลัง และเสนอเรื่องนั้นเรื่องนี้เข้ามา ในขณะที่ตนเองก็มีทีม การทำงานเศรษฐกิจไม่ใช่ว่าจะเก่งอยู่คนเดียวแล้วบอกว่าสุดยอดแน่นอน อย่างนั้นไม่ใช่ กลุ่มเศรษฐกิจของเรามีอยู่ทุกด้านและมีข้อเสนอเพื่อนำไปปรึกษาในคณะทำงานก่อนที่จะนำมาเข้ามาในระบบของรัฐบาลเพื่อให้เดินหน้าได้

 

ดังนั้นการจะเอานักเศรษฐกิจที่เก่งในเรื่องนั้นเรื่องนี้มาเพียงคนเดียวแล้วบอกว่าเก่งในเรื่องการบริหารประเทศ คิดว่ามันไม่ใช่

 

เมื่อถามว่ามั่นใจว่าจะสู้พรรคอื่นได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แน่นอนๆ

ถามว่า ในวันเดียวกันนี้พรรคเพื่อไทยจะเปิดตัวนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แล้วพรรครวมไทยสร้างชาติจะมีตัวชูอย่างนั้นบ้างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "แล้วเขาเด่นตรงไหนล่ะ ที่เสนอชื่อเขามา เขาเก่งตรงไหน เขาทำอะไรมา เขาทำธุรกิจ และประเทศชาติไม่ใช่ธุรกิจ "

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า จำคำพูดผมเอาไว้นะ คำว่าเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ใช่เศรษฐกิจหรือธุรกิจของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง เข้าใจหรือไม่เป็นของประเทศ ฉะนั้นต้องหาคนที่เหมาะสม และการทำงานก็มีระบบและขั้นตอนมากมายไปหมด ต้องมีคณะกรรมการ มีคนที่เก่งเศรษฐกิจ ด้านการเงิน ด้านการธนาคาร การพาณิชย์ การอุตสาหกรรม และทั้งหมดต้องมาคุยด้วยกัน ไม่ว่าใครจะเก่งด้านใด เมื่อสั่งแล้วไปไม่ได้ หรือติดกฎหมายก็ไปไม่ได้อีกอยู่ดี เราก็ต้องแก้ไขตรงนี้

 

แล้วรัฐบาลชุดหน้าจะต้องทำแบบนี้ เข้าใจหรือยัง เลิกถามเสียทีเถอะถึงหัวหน้าทีมเศรษฐกิจเนี่ย"

ผ้าขาวม้า มีความสอดคล้องกับลักษณะของมรดกวัฒนธรรม

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.)

 

โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เสนอเรื่อง ผ้าขาวม้า : ผ้าอเนกประสงค์ในวิถีชีวิตไทย เพื่อขอขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ไปยังยูเนสโกภายในเดือนมีนาคม 2566 นี้ เป็นไปตามเอกสารแนวทางการอนุวัติตามอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Operational Directives for the implementation of the Convention for the Safeguarding of the Intangible Cultural Heritage)

 

หัวข้อที่ 1.15 กำหนดให้รัฐภาคียื่นเสนอรายการมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ จำเป็นต้องดำเนินการภายในเดือนมีนาคมของทุกปี รวมไปถึง ครม.ได้เห็นชอบในเอกสารนำของผ้าขาวม้า และเห็นชอบให้อธิบดี สวธ. ในฐานุเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เป็นผู้ลงนามในเอกสารนำเสนอรายการผ้าขาวม้า เพื่อเสนอขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโก

 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ค.ศ. 2003 (Convention for the Safeguarding of the Intangible Cultural Heritage 2003) ของยูเนสโก เมื่อปี พ.ศ. 2559

 

โดยในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2560 – 2565 ไทยได้เสนอมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติเพื่อขอขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ จำนวนทั้งสิ้น 5 รายการ คือ โขน (พ.ศ. 2561) นวดไทย (พ.ศ. 2562) โนรา (พ.ศ. 2564) สงกรานต์ในประเทศไทย (จะพิจารณาในปี 2566) และต้มยำกุ้ง (จะพิจารณาในปี 2568)

 

โดยเบื้องต้น รายการ โขน นวดไทย และ โนรา ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติของยูเนสโกแล้ว คาดว่ารายการสงกรานต์ในประเทศไทย จะได้รับการประกาศในปี 2566 ต้มยำกุ้ง คาดว่าจะได้รับการประกาศปี 2568 จากนั้นคาดว่าผ้าขาวม้า จะได้รับการพิจารณาและประกาศปี 2570

 

ทั้งนี้ ผ้าขาวม้า เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่ได้ประกาศขึ้นบัญชีเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ประจำปี พ.ศ. 2556 เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2556 ผ้าขาวม้าเป็นผ้าที่ทอโดยใช้เทคนิคที่เรียบง่าย มักทอเป็นลายตารางหรือลายแถบที่มีสีสัน มีการย้อมสีและสามารถทอใช้ได้เองในครัวเรือน ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และคนหนุ่มสาว

 

อีกทั้งยังสามารถใช้ประโยชน์ในการดำเนินชีวิตได้อย่างหลากหลาย มีการใช้งานสารพัดประโยชน์ทั้งในชีวิตประจำวัน และในประเพณีพิธีกรรมสำคัญต่าง ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านของชีวิต ตลอดจนเป็นของกำนัล แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของท้องถิ่นไทย มีการถ่ายทอดภูมิปัญญาที่สืบทอดมาอย่างยาวนานโดยส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ทั้งในครอบครัว ในโรงเรียน ในศูนย์ทอผ้าของชุมชนในท้องถิ่นและมีการพัฒนาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใช้สอยและสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำใหม่ช่วยส่งเสริมความรับผิดชอบต่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม

 

ดังนั้น ผ้าขาวม้า มีความสอดคล้องกับลักษณะของมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ตามนิยามในอนุสัญญาฯ ใน 3 ลักษณะ กล่าวคือ

1) การปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรมงานเทศกาล

2) ความรู้และการปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล และ

3) งานช่างฝีมือดั้งเดิม และสอดคล้องกับเกณฑ์ประเภทรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ของยูเนสโก

‘ไทย’ รับมอบวัคซีนโควิดรุ่นใหม่จากเกาหลีใต้กว่า 5 แสนโดส เตรียมฉีดเป็นเข้มกระตุ้น จนท.ด่านหน้า ปลายเดือน ก.พ.นี้

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รับมอบวัคซีนไฟเซอร์ bivalent จำนวน 501,120 โดส จากรัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลี ในโอกาสครบรอบ 65 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-เกาหลี เตรียมจัดสรรให้ทุกจังหวัดและกรุงเทพมหานคร สิ้นเดือน ก.พ. นี้ ใช้ฉีดเป็นเข็มกระตุ้นในเจ้าหน้าที่ด่านหน้า อาสาสมัครสาธารณสุขกลุ่ม 608  ที่เสี่ยงเกิดอาการป่วยรุนแรง

เมื่อวานนี้ (20 ก.พ.66) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข รับมอบวัคซีนโควิด-19 รุ่นใหม่ ไฟเซอร์ bivalent จำนวน 501,120 โดส จากรัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลี โดยมี นาย มุน ซึงฮยอน (Moon Seoung-hyun) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย นาย จอน โจยอง (Jeon Joyoung) อัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย และคณะ เป็นผู้แทนส่งมอบ นายอนุทิน กล่าวว่า ในนามรัฐบาลไทย และกระทรวงสาธารณสุข ขอขอบคุณรัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลีที่มีความปรารถนาดีให้กับประเทศไทยเสมอมา รวมทั้งความร่วมมือด้านสาธารณสุขในการแก้ไขสถานการณ์โรคโควิด-19

โดยสาธารณรัฐเกาหลีเคยสนับสนุนวัคซีนแอสตราเซนเนก้าให้กับไทยเป็นครั้งแรก เมื่อเดือนตุลาคม 2564 จำนวน 470,000 โดส ช่วยลดการป่วยหนักและเสียชีวิตให้กับคนไทยและคนเกาหลีที่ทำงานและอาศัยอยู่ในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี สำหรับวัคซีนที่สนับสนุนเป็นครั้งที่ 2 ในครั้งนี้ เป็นวัคซีนรุ่นใหม่ของไฟเซอร์ ชนิด bivalent ซึ่งจะเป็นล็อตแรกของประเทศไทยที่จะนำมาใช้สร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้กับกลุ่มเสี่ยงและประชาชน

“ปัจจุบัน ประเทศไทยได้ฉีดวัคซีนโควิดอย่างน้อย 1 เข็ม ครอบคลุมประชากรมากกว่า 83% และฉีดเข็มกระตุ้นไปแล้ว 39% ซึ่งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการต่อสู้กับภัยสุขภาพระดับโลก สำหรับการรับมอบวัคซีนในวันนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความร่วมมือและความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของประเทศไทยและสาธารณรัฐเกาหลีที่ไม่ใช่เพียง 65 ปีเท่านั้น แต่จะเป็นความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันตลอดไป” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ตามมติคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค และผลการศึกษาในช่วงปลายปี 2565 ในประเทศสหรัฐอเมริกาและองค์การอนามัยโลก มีข้อแนะนำให้ใช้วัคซีนไฟเซอร์ bivalent เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นในผู้ที่เคยได้รับวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็มขึ้นไป ซึ่งจะช่วยลดการติดเชื้อแบบมีอาการได้ประมาณ 28-56% ความปลอดภัยไม่ต่างกับวัคซีนรุ่นแรกชนิด monovalent สามารถใช้ทั้งชนิด monovalent และ bivalent มาเป็นเข็มกระตุ้นได้ เนื่องจากผลในการป้องกันโรคไม่แตกต่างกัน โดยกรมควบคุมโรคจะจัดสรรวัคซีนให้ทุกจังหวัดและกรุงเทพมหานคร ตามสัดส่วนของประชากรแต่ละจังหวัดอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม รวมทั้งจัดสรรให้กับเครือข่ายกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์ (Uhosnet) กรมการแพทย์ และสภากาชาดไทย คาดว่าจะมีการจัดส่งวัคซีนประมาณสิ้นเดือน กุมภาพันธ์นี้

สำหรับกลุ่มเป้าหมายในการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ bivalent เข็มกระตุ้น ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย อาสาสมัครสาธารณสุข กลุ่มเสี่ยงเกิดอาการป่วยรุนแรง (กลุ่ม 608) รวมถึงประชาชนทั่วไปที่มีความเสี่ยง เช่น สัมผัสกลุ่มเสี่ยง สัมผัสนักท่องเที่ยว เป็นต้น โดยต้องได้รับวัคซีนโควิด-19 มาแล้วอย่างน้อย 2 เข็ม จะฉีดเข็มที่ 3 ห่างจากเข็มที่ 2 อย่างน้อย 3 เดือน และเข็มที่ 4 ห่างจากเข็มที่ 3 อย่างน้อย 4 เดือน ส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 มาแล้วและเคยติดเชื้อ จะฉีดหลังติดเชื้ออย่างน้อย 6 เดือน

เอาใจคอดนตรี เตรียมแพ็กกระเป๋าขึ้นเขาค้อ ชมคอนเสิร์ต 'เขาค้อเฟสติวัล' ส่งท้ายลมหนาว 17-18 ก.พ.นี้

(เพชรบูรณ์) นับเป็นอีกคอนเสิร์ตที่น่าสนใจไม่น้อย ส่งท้ายลมหนาว 'เขาค้อเฟสติวัล' ครั้งที่ 1 The Front BN Farm (ไร่บีเอ็น) อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่  17-18 กุมภาพันธ์นี้รวม 2 คืน โดยมี 20 ศิลปินนักร้องแนวอินดี้ อาทิ เรนิษรา, t_047, ดวงดาวเดียวดาย, Greasy Cafe, คณะขวัญใจ, zweed n' roll, J.A.M, T-BONE, สุเทพการบันเทิง, จุลโหฬาร, WHATFALSE, มนัสวีร์, BlackBeans, เยนา, เขียนไขและวานิช, ชาติ สุชาติ, อภิรมย์, สิงโต นำโชค, อีสานฟิวชั่น, Southern Boys ที่จะมาสร้างความฟินไปกับทุกคน ก่อนฤดูหนาวจะโบกมือลาในปีนี้

นายสรกฤษณ์ คำแพง กรรมการผู้จัดการบริษัทกรูเรดคอร์ดจำกัด ผู้จัดคอนเสิร์ตเขาค้อเฟสติวัลในครั้งนี้ กล่าวว่า สำหรับคอนเสิร์ตแนวนี้จะเป็นการตอบโจทย์กลุ่มสายแคมป์ปิ้งและกลุ่มเดินทาง โดยภายในบริเวณงานเราให้ผู้ชมตั้งเต้นท์พักค้างแรมภายในลานคอนเสิร์ตไปพร้อม ๆ กับชมคอนเสิร์ต นอกจากนี้ ยังทำกิจกรรมแคมป์ปิ้ง อาทิ การปิ้งย่าง ฯลฯ หรือแนวครอบครัวได้อีกด้วย ซึ่งจะเป็นบรรยากาศการฟังเพลงแบบสบาย ๆ ชิล ๆ ส่วนเต้นท์ที่พักนั้นผู้ชมคอนเสิร์ตต้องจัดหามาเอง

CEO ปตท. บรรยายพิเศษด้านพลังงาน-ภูมิรัฐศาสตร์ สร้างเสริมองค์ความรู้ใหม่ ให้แก่ ‘ยุวทูตคุณธรรม’

เมื่อไม่นานมานี้ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เสริมความรู้ด้านพลังงานให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ใน ‘การประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาแกนนําเด็กและเยาวชนเพื่อเป็นยุวทูตคุณธรรมในศตวรรษที่ 21’ ในหัวข้อ ‘ความมั่นคงทางพลังงานกับภูมิรัฐศาสตร์’ โดยกล่าวถึงความเชื่อมโยงระหว่างภูมิรัฐศาสตร์ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อพลังงานของประเทศและของโลก รวมถึงภารกิจหลักของ ปตท. ในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้แก่คนไทยท่ามกลางสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป

AOT เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมเจรจาธุรกิจ The Route Development Forum for Asia 2023

(เชียงใหม่) วันที่ 14 ก.พ. 66 บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมเจรจาธุรกิจ The Route Development Forum for Asia 2023 ซึ่งเป็นงานประชุมเจรจาธุรกิจด้านการบินพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยมี พลอากาศเอก ภานุพงศ์ เสยยงคะ กรรมการ AOT เป็นประธานในพิธีเปิดงานฯ พร้อมด้วยนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT รวมถึงผู้บริหาร AOT ผู้แทนจากหน่วยงานภายใต้พันธมิตรเครือข่ายทางการบิน และการท่องเที่ยวจากทั่วโลกร่วมงานประชุมฯ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 – 16 กุมภาพันธ์ 2566 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2554 (ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่) จังหวัดเชียงใหม่

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้จํานวนผู้โดยสารที่เดินทางผ่านท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ลดลงจาก 142 ล้านคนในปี 2561 เหลือเพียง 72 ล้านคนในปี 2562 ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วระหว่างปี 2563 - 2565 ปริมาณผู้โดยสารลดลงในอัตราร้อยละ 59 เมื่อเทียบกับจำนวนผู้โดยสารรวมในปี 2562 ก่อนเกิดสถานการณ์

อย่างไรก็ตาม ในปี 2566 การเดินทางของผู้โดยสารมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากการที่หลาย ๆ ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยมีนโยบายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ รวมถึงปริมาณนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ตลอดจนสายการบินกลับมาทำการบินในเส้นทางบินเดิม และเพิ่มเส้นทางบินใหม่ ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจการบินและธุรกิจท่องเที่ย วให้สามารถฟื้นตัวและดำเนินกิจการได้ดีขึ้น ดังนั้น การจัดงานประชุมเจรจาธุรกิจ The Route Development Forum for Asia 2023 ซึ่งเป็นงานประชุมเจรจาธุรกิจด้านการบินพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จะเป็นเวทีเจรจาธุรกิจระหว่างท่าอากาศยาน สายการบิน หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวในธุรกิจการบินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จำนวนกว่า 800 ราย ได้มีโอกาสพบปะ เจรจา แลกเปลี่ยนมุมมอง และแลกเปลี่ยนวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practice) อันจะนำไปสู่การปรับปรุงเครือข่ายทางการบินและการดำเนินธุรกิจ ทำให้เกิดการพัฒนาการบริการในอนาคตที่ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ งานประชุมฯ ยังเป็นการสนับสนุนการสร้างเครือข่ายทางการบิน (Route Networks) และการท่องเที่ยวของภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ซึ่งจะส่งเสริมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เช่น การจ้างงาน การแสดงความเชื่อมโยงของระบบขนส่ง การแสดงความพร้อมในการรองรับการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ อีกทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียงให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น

หลวงตาบุญชื่น ธุดงค์เท้าเปล่าจากหาดใหญ่ใกล้ถึงแม่สาย พลังศรัทธาท่วมท้น ชาวบ้านแห่ถวายอาหาร-น้ำดื่มตลอดเส้นทาง

(เชียงราย) เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลวงตาบุญชื่น ปัญญาวุฑโฒ ได้เดินจาริกธุดงค์เท้าเปล่าแสวงบุญเข้าเขตพื้นที่จังหวัดเชียงรายแล้ว โดยวานนี้ได้เดินจากอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ และพักที่โรงเรียนบ้านโป่งน้ำร้อน ตำบลป่าตึง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ก่อนที่จะเดินธุดงค์เท้าเปล่าต่อผ่านพื้นที่เทศบาลตำบลแม่จัน และแวะพักที่สถานีตำรวจทางหลวงแม่จัน ท่ามกลางคณะศรัทธาและหน่วยงานสาธารณกุศลต่าง ๆ ร่วมอำนวยความสะดวก ขณะที่พุทธศาสนิกชนนำอาหาร น้ำดื่ม ฯลฯ ถวายตลอดเส้นทางธุดงค์ไปตามถนนพหลโยธิน

โดยหลวงตาบุญชื่นกำหนดจะพักจำวัดที่วัดศรีค้ำ ต.ศรีค้ำ อ.แม่จัน และวันที่ 13 ก.พ. นี้ มีกำหนดจะเดินจาริกธุดงค์ไปตามถนนพหลโยธินมุ่งหน้าไปยังชายแดน อ.แม่สาย ที่อยู่ห่างไปประมาณ 27 กิโลเมตร และเดินต่อไปตามถนนเลาะชายแดนไปยัง อ.เชียงแสน แล้ววกเข้า อ.ดอยหลวง อ.เวียงเชียงรุ้ง อ.เวียงชัย และ อ.ป่าแดด จ.เชียงราย ตามถนนหมายเลข 1173-1128 ก่อนเข้าสู่ อ.จุน จ.พะเยา ต่อไป

ทั้งนี้ หลวงตาบุญชื่นได้เดินจาริกออกจากวัดมหัตตมังคลาราม หรือ วัดหาดใหญ่ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตั้งแต่กลางเดือน ต.ค. 2565 และมีจุดหมายจะกลับไปยัง อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เพื่อบำเพ็ญเพียรและปฏิบัติธุดงควัตรตามรอยหลวงปู่มั่น โดยไม่ขอขึ้นรถ และรับถวายเพียงน้ำเปล่า โดยใช้เส้นทางจากภาคใต้-เหนือสุดในสยามที่ อ.แม่สาย ก่อนจะวกกลับไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มุ่งหน้าไป อ.นครพนม รวมระยะทาง 3,415 กิโลเมตร จนถึงขณะนี้ใช้เวลาเดินจาริกธุดงค์เท้าเปล่าแล้วประมาณ 5 เดือน

การเดินจาริกธุดงค์ของหลวงตาบุญชื่นในครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากที่ทางโรงพยาบาลและหน่วยราชการต่าง ๆ ใน จ.นครพนม ขอบารมีจากหลวงตาในการสร้างโรงพยาบาลและสถานที่ราชการ ในพื้นที่ 99 ตำบล 12 อำเภอ เป็นเงิน 1,300 กว่าล้านบาท ซึ่งสาธุชนสามารถร่วมบุญได้โดยโอนผ่านบัญชีธนาคารออมสิน สาขาโพนสวรรค์ เลขที่บัญชี 020-3984-57356 และต้องบริจาคผ่านบัญชีธนาคารเท่านั้น

ที่มา : https://mgronline.com/local/detail/9660000013788

ปตท. หนุนทัพนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขัน เอเชีย มิกซ์ ทีม แชมป์เปี้ยนชิพ 2023

(11 ก.พ.66) นางกนกพร รอดรุ่งเรือง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารชื่อเสียงองค์กรและกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ให้การต้อนรับและมอบกำลังใจแก่คณะนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย จากสโมสรแบดมินตันที ไทยแลนด์ ก่อนเข้าร่วมการแข่งขันรายการ เอเชีย มิกซ์ ทีม แชมป์เปี้ยนชิพ หรือ ทีมผสม ชิงแชมป์เอเชีย 2023 ในระหว่างวันที่ 14 - 19 กุมภาพันธ์ 2566 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ทีมกู้ภัย กลุ่ม ปตท. เดินทางช่วยเหลือผู้ประสบภัย จากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ใน ‘ตุรกี-ซีเรีย’

(10 ก.พ. 66) นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศตุรกีและซีเรีย เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบรุนแรงเป็นวงกว้าง ประชาชนหลายล้านคนเดือดร้อนจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้น 

สมาชิกชมรม PTT Group SEALs กลุ่ม ปตท. ได้แก่ บริษัท เอ็นพีซี เซฟตี้ แอนด์ เอ็นไวรอนเมนทอล เซอร์วิส จำกัด หรือ NPC S&E ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการช่วยเหลือเหตุภัยพิบัติ ได้ส่งทีมปฏิบัติการ พร้อมเครื่องมือและอุปกรณ์ครบชุด เพื่อช่วยเหลือเรื่องการตรวจสอบสารเคมีในจุดเกิดเหตุ ก่อนดำเนินการค้นหาช่วยเหลือกู้ภัย โดยทีมปฏิบัติการเข้าร่วมภารกิจเดินทางไปพร้อมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในนามรัฐบาลไทย ภายใต้บันทึกข้อตกลงโครงการ Urban Search and Rescue (USAR) เพื่อให้ความช่วยเหลือกรณีเกิดภัยพิบัติทั้งภายในและต่างประเทศ มีกำหนดปฏิบัติภารกิจเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 9 - 19 กุมภาพันธ์ 2566

'สุโขทัย' จัดงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ฯ ให้บริการมอบความรู้-คำปรึกษาแก่เกษตรกร ยกระดับการเกษตรไทย

(สุโขทัย) เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 จังหวัดสุโขทัยโดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ณ วัดหนองตาโชติ หมู่ที่ 5 ตำบลวังทองแดง อำเภอเมืองสุโขทัย โดยมีนายสุชาติ ทีคะสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เป็นประธานในพิธีเปิด และมีนายวีระ บัวจันทร์ เกษตรจังหวัดสุโขทัย เป็นผู้กล่าวรายงานการจัดงาน

ภายในงานมีการเปิดให้บริการคลินิกเกษตร ให้บริการและคำปรึกษาด้านการเกษตร ได้แก่ คลินิกพืช โดยกรมวิชาการเกษตร คลินิกดิน โดยกรมพัฒนาที่ดิน, คลินิกปศุสัตว์ โดยกรมปศุสัตว์, คลินิกประมง โดยกรมประมง, คลินิกข้าว โดยกรมการข้าว, คลินิกชลประทาน โดยกรมชลประทาน, คลินิกสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ ฯลฯ

ในส่วนของสำนักงานเกษตรจังหวัดสุโขทัย ได้เปิดคลินิกโรคพืช ให้คำปรึกษาด้านการจัดการศัตรูพืช ให้บริการเชื้อราป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืช บริการพืชน้ำแหนแดง เพื่อให้เกษตรกรได้นำไปใช้ประโยชน์ เช่น ใช้เป็นปุ๋ยพืชสดในนาข้าว เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีการจัดนิทรรศการความรู้ สนับสนุนพันธุ์ปลา พันธุ์พืช การแสดง สาธิต เครื่องจักรกลทางการเกษตร จากส่วนของเอกชน ฯลฯ ซึ่งการจัดงานในวันนี้ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงมหาดไทย, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงพลังงาน, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) และภาคเอกชน เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่ได้รับบริการทางการเกษตรอย่างรวดเร็ว ทั่วถึงและครบถ้วน รวมถึงการให้บริการความรู้สาธิต ฝึกอบรมควบคู่กันไปด้วย ซึ่งเป็นการดำเนินการในลักษณะบูรณาการการทำงานระหว่าง นักวิชาการเกษตรของหน่วยงานต่าง ๆ ในแต่ละสาขา ทั้งด้านพืช สัตว์ ประมง ดิน และน้ำ โดยในวันนี้มีเกษตรกรมาร่วมงานและเข้าร่วมบริการทางการเกษตรมากกว่า 200 ราย

ที่มา : https://www.77kaoded.com/news/sirinart/2402321

ปตท. หนุนงบฯ แก่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ช่วยเหลือผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่ขาดแคลนทุนทรัพย์

ไม่นานมานี้ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่, นางนิวดี เจริญสิทธิพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่รัฐกิจสัมพันธ์ และนางกนกพร รอดรุ่งเรือง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารชื่อเสียงองค์กรและกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) สนับสนุนงบประมาณแก่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่ขาดแคลนทุนทรัพย์จำนวน 5 ล้านบาท 

'เชียงใหม่' เผชิญหมอกควันไฟป่าหนาแน่น อากาศย่ำแย่ นายอำเภอฝาง เร่งประสานชาวบ้าน ห้ามเผาไร่

(เชียงใหม่) เชียงใหม่ยังเผชิญกับสถานการณ์หมอกควันและไฟป่า รวมถึงค่าฝุ่นพิษ PM 2.5 ในเขตพื้นที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ นอภ.ฝาง ต้องเรียกประชุมขอความร่วมมือชาวบ้าน 15 ก.พ.-30 เม.ย. นี้ ห้ามเผาพืชไร่ต่าง ๆ รวมทั้งจะประสานไปฝั่งพม่าเพื่อให้เข้าใจปัญหาหมอกควัน ไฟป่า

วันที่ 8 ก.พ. 66 ว่าที่ร้อยตรีนพรัตน์ ศุภกิจโกศล นายอำเภอฝาง พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบพื้นที่ชายแดนดอยสันจุ๊ ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเขียงใหม ซึ่งมีพื้นที่แนวตะเข็บชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านหลังรับแจ้งว่า พบกลุ่มควันจำนวนมากกระแสลมได้พัดมาจากทางทิศตะวันตกเข้ามายังพื้นที่อำเภอฝาง

โดย นายอำเภอฝาง กล่าวว่า สถานการณ์ ฝุ่น PM 2.5 และหมอกควัน ไฟป่า ในช่วงปลายปี 2565 จนถึงปัจจุบัน ทางอำเภอฝางเกิดฮอตสปอต 23 จุด ซึ่งทางอำเภอฝางและหลายหน่วยงาน เช่น ป้องกันสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ สาขาฝาง ปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันรณรงค์เรื่องไฟป่าและหมอกควัน รวมถึงจัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันหมอกควันและไฟป่าในระดับตำบล หมู่บ้าน โดยจะมีการประชุมและประชาสัมพันธ์ ขอความร่วมมือกับชาวบ้าน ในวันที่ 15 ก.พ. - 30 เม.ย. 66 จะเป็นช่วงงดเผาเด็ดขาดตามประกาศของจังหวัดเชียงใหม่

ว่าที่ร้อยตรีนพรัตน์ กล่าวเพิ่มว่า สำหรับอำเภอฝางนั้นมีพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศพม่า ซึ่งทางศูนย์อำนวยการป้องกันหมอกควันไฟป่าของอำเภอนั้น ได้จัดชุดลาดตระเวนร่วมกับทหารกองกำลังผาเมืองในพื้นที่แนวตะเข็บชายแดนเพื่อเฝ้าระวัง โดยจากที่ขึ้นมาสังเกตการณ์วันนี้ก็จะพบหมอกควันจำนวนหลายจุดอย่างชัดเจน ที่เกิดในประเทศเพื่อนบ้านและประกอบกับทิศทางลมลมพัดที่เข้ามาฝั่งบ้านเรา ทำให้เกิดหมอกควันปกคลุมในพื้นที่ โดยจะประสานงานในระดับนโยบายเพื่อทำความเข้าใจกับประเทศเพื่อนบ้านถึงปัญหาหมอกควันไฟป่า

ทั้งนี้ยังจะมีสัตว์ป่าหลากหลายชนิด เช่น เลียงผา ซึ่งเป็นสัตว์ป่าหายาก และคาดว่าสูญพันธุ์ไปจากพื้นป่าด้านอำเภอฝางมานานแล้ว ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกว่า ได้พบตัวเลียงผาดังกล่าวจำนวนหลายตัว รวมไปถึง เก้ง หมูป่า และอีกหลายหลายชนิด หนีไฟป่าจากประเทศพม่าเข้ามาในฝั่งไทยเป็นจำนวนมาก

ที่มา : https://www.thairath.co.th/news/local/north/2624010

‘ลุงหนู’ กำชับ ‘สธ. - คมนาคม - ท่องเที่ยว’ อำนวยความสะดวก - ดูแลมาตรการโควิดทัวร์จีน

(5 ก.พ.66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 ก.พ.) จะเป็นวันแรกที่ทางการจีนจะเริ่มอนุญาตให้ชาวจีนเดินทางไปท่องเที่ยวแบบหมู่คณะหรือกรุ๊ปทัวร์ได้ใน 20 ประเทศซึ่งรวมถึงประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้กำชับหน่วยงานในกำกับ ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ตรวจความพร้อมในด้านต่างๆ สำหรับการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ตลอดจนการดูแลให้เป็นไปตามมาตรฐานการควบคุมโรค

ทั้งนี้ หน่วยงานทั้งรัฐและเอกชนประเมินสอดคล้องกันว่านักท่องเที่ยวจีนจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะแม้จะมีการอนุญาตให้เดินทางเป็นกรุ๊ปทัวร์ไปต่างประเทศ แต่บริษัทท่องเที่ยวที่หยุดดำเนินการมานานเกือบ 3 ปี จะต้องใช้เวลาในการปรับตัว โดยบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) ประเมินว่าปริมาณเที่ยวบินจากจีนมายังประเทศไทยตลอดปี 66 จะอยู่ที่ 36,896 เที่ยวบิน เพิ่มจากปี 65 ร้อยละ 227.6% หรือ 2 เท่า โดยเที่ยวบินจะเพิ่มอย่างค่อยเป็นค่อยไปและจะมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง และคาดว่าจะกลับมาเท่ากับปี 62 ซึ่งเป็นช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 ได้ในปี 67

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับความพร้อมด้านคมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้มีการติดตามการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด โดยในวันที่ 9 ก.พ.นี้ มีกำหนดการตรวจเยี่ยมและติดตามข้อสั่งการต่างๆ ที่ท่าอากาศสุวรรณภูมิ ซึ่งนอกจากการลงพื้นที่ตรวจความพร้อมของจุดบริการต่างๆ ในท่าอากาศยาน จะมีการประชุมผ่านระบบออนไลน์ร่วมกับท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ซึ่งเป็นท่าอากาศยานระหว่างประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อติดตามสถานการณ์ของแต่ละท่าอากาศยานภายหลังสาธารณรัฐประชาชนจีนเปิดประเทศ รวมถึงติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระในท่าอากาศยานให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ที่มา: https://siamrath.co.th/n/420615

‘รมช.มนัญญา’ เคาะ 86 ลบ. ช่วยเกษตรกรอุทัยธานี บรรเทาความเดือดร้อน หลังประสบภัยพิบัติ

(4 ก.พ.66) นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาสเป็นประธานพิธีมอบเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตรจังหวัดอุทัยธานี โดยมี นายอลงกต วรกี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี, นายธนะสิทธิ์ ธนากีรตินันท์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุทัยธานี หัวหน้าส่วนราชการ และเกษตรกรจำนวน 240 คน เข้าร่วม ณ หอประชุมอาคารภักดี เทศบาลตําบลสว่างอารมณ์ อ.สว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี ว่า...

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีภารกิจหลักในการช่วยเหลือเยียวยาให้กับเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติต่าง ๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร ตลอดจนส่ง เสริมสนับสนุน ปัจจัยพื้นฐานทางการเกษตร โดยในปี 2565 ที่ผ่านมา จังหวัดอุทัยธานีมีเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยพิบัติด้านการเกษตร ส่งผลให้ได้รับความเดือดร้อนทั้งด้านพืช ด้านประมง และด้านปศุสัตว์ ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 8 อำเภอ วงเงินขอความช่วยเหลือ จำนวน 187,019,539.50 บาท ซึ่งจังหวัดอุทัยธานีได้รับการอนุมัติโอนเงินช่วยเหลือแล้ว จำนวน 86,221,714.50 บาท ได้แก่...

1.) ด้านพืช เกษตรกรได้รับเงินรวม 3,173 ราย วงเงิน 85,719,118 บาท 

2.) ด้านประมง เกษตรกรได้รับเงินรวม 19 ราย วงเงิน 108,856.50 บาท

และ 3.) ด้านปศุสัตว์ เกษตรกรได้รับเงินรวม 22 ราย วงเงิน 393,740 บาท ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างขออนุมัติขยายวงเงินจากกรมบัญชีกลาง เพื่ออนุมัติโอนเงินให้แก่เกษตรกรต่อไป

แตกตื่นทั้งหมู่บ้าน! ชาวบ้านผวา พบรอยเท้าสัตว์ปริศนาโผล่ย่านชุมชน ปศุสัตว์ฯ คาดเป็น 'หมีขอ' หนีไฟป่า

ชาวบ้านพื้นที่ชายป่าอุทยานแห่งชาติแม่ปืม จังหวัดเชียงราย ผวากันทั้งหมู่บ้าน หลังพบรอยเท้า-ร่องรอยฟัน สัตว์ปริศนา โผล่ย่านชุมชนที่อยู่อาศัย รั้วบ้านถูกกระแทกพังเสียหาย จนต้องจัดเวรยามเฝ้าระวังเข้ม ปศุสัตว์ฯ ตรวจสอบเบื้องต้นคาดเป็นรอย 'หมีขอ' หนีแล้ง-ไฟป่า

เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 66 มีรายงานว่า ที่หมู่บ้านโป่งศรีนคร หมู่ 11 ตำบลโรงช้าง อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย ได้มีร่องรอยที่น่าสงสัยเกิดขึ้นบวิเวณทุ่งนา ห่างจากชุมชนที่อยู่อาศัย โดยพบร่องรอยเกิดจากมีสัตว์บางชนิดเข้ากัดแทะและล้มต้นใหญ่จนล้มลงหลายต้น เสาไฟฟ้าและท่อนไม้บริเวณเดียวกันถูกกัดแทะจนมีร่องรอยฟัน สายไฟฟ้าถูกตัดขาด รั้วบ้านที่ทำจากกระเบื้องถูกชนจนเสียหาย

ทำให้นายมานพ ชัยบัวคำ กำนันตำบลโรงช้าง ที่ได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านได้เข้าไปตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุ ก็พบรอยเท้าของสัตว์ไม่ทราบชนิดมีขนาดเท่าสุนัข แต่มีเล็บแหลมคมแยกออกไปตามนิ้วต่าง ๆ ให้เห็นอย่างชัดเจน


© Copyright 2022, All rights reserved. North Time Thailand
Take Me Top