Saturday, 20 April 2024
NEWS

รองหัวหน้าพรรค พปชร. เปิดเผยว่าพรรคเตรียมที่จะประชุมสัมมนา เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครทั้ง 400 เขต ในวันที่ 30 มี.ค.นี้

นายวิรัช รัตนเศรษฐ อดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค พปชร. เปิดเผยว่าพรรคเตรียมที่จะประชุมสัมมนา เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครทั้ง 400 เขต ในวันที่ 30 มี.ค.นี้ ในพื้นที่ กทม. ซึ่งขณะนี้กำลังพิจารณาสถานที่อยู่ ขณะที่การจัดทำไพรมารีโหวตของพรรค คาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกินวันที่ 25 มี.ค. ส่วนการเดินสายปราศรัย หาเสียงของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค ในวันที่ 25 -26 มี.ค. จะไปที่ จ.พิจิตร และกำแพงเพชร

 

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวเรื่องการวางตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในส่วนของ จ.นครราชสีมา ที่ครั้งก่อนสามารถกวาด ส.ส.แบบแบ่งเขตมาได้ถึง 6 ที่นั่ง ขณะนี้วางตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วทั้ง 16 เขตเลือกตั้ง

 

ประกอบด้วย นายเกษม ศุภรานนท์ อดีต ส.ส.นครราชสีมา เขต 1, นายประพิศ นวมโคกสูง เขต 2, นายวีรวัฒน์ มิตรสูงเนิน เขต 3, นายสุธรรม พรสันเทียะ เขต 4, นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ อดีต ส.ส.นครราชสีมา เขต 5, นางอรทัย พลวิเศษ เขต 6, นางทัศนียา รัตนเศรษฐ อดีต ส.ส.นครราชสีมา เขต 7, นางอรัชมน รัตนเศรษฐ เขต 8, นางทัศนาพร เกษเมธีการุณ อดีต ส.ส.นครราชสีมา เขต 9, นายณัฐพล ชวนกระโทก เขต 10, พ.ต.อ.ปริวัฒน์ นาคำ เขต 11, น.ส.กาญจนา เปรมพิรักษา เขต 12, นายสุกฤษณ์ วัชรมาลีกุล เขต 13, นายวิรัตน์ วาริชอลังการ เขต 14, นายพจน์ เจริญสันเทียะ เขต 15 และนายตติรัฐ รัตนเศรษฐ เขต 16

 

ขณะที่นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม และอดีต ส.ส.นครราชสีมา จะขยับไปลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ นอกจากนี้ ยังพบว่า นางอรทัย พลวิเศษ ที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขต 6 เป็นมารดาของนายนวพล พลวิเศษ ที่ไปลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.นครราชสีมา กับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)

 

นายวิรัช รัตนเศรษฐ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า พปชร.ตั้งความหวังในพื้นที่ จ.นครราชสีมาไว้ทุกเขต โดย พปชร.จะมีการปราศรัยใหญ่ที่ จ.นครราชสีมา ในวันที่ 22 เม.ย.

 

ชัยวุฒิ เดือด !!

 

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ที่อาคารยิมเนเซียม สนามกีฬาสมโภชน์ 700 ปี จ.เชียงใหม่ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวปราศรัยในเวทีหาเสียงของพรรค พปชร. ว่า

 

บางพรรคพูดถึงผลงานตัวเองเมื่อ 20 ปีที่แล้ว พูดแต่เรื่องเก่าๆ เช่น 30 บาทรักษาทุกโรค สมัยก่อนมีปัญหามากแถวบ้านผมเรียก 30 บาทตายห่าทุกโรค เพราะโรงพยาบาลและรัฐบาลเจ๊ง เงินไม่พอ กว่าเราจะแก้ปัญหามาได้ถึงวันนี้เหนื่อยมาก

 

จนวันนี้ 30 บาทรักษาได้แล้ว ไม่ต้องรอรัฐบาลใหม่มาทำ รัฐบาลนี้ทำมาแล้ว ไม่ต้องไปดูป้ายหาเสียงพรรคไหน เพราะนั้นคืออนาคต พปชร.ทำมาแล้ว

 

 

ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ตั้งเป้าเปิดให้บริการรถขนส่งไฟฟ้า ภายในไทย 71 คัน

วันนี้ (20 มี.ค. 66) ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ผู้ให้บริการขนส่งด่วนระหว่างประเทศชั้นนำของโลก ขยายจำนวนยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ใช้ในการขนส่งในประเทศไทย โดยเพิ่มรถขนส่งพลังงานไฟฟ้าอีก 16 คัน ในการจัดส่งแบบลาสไมล์ นอกเหนือจากรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 50 คันที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน การขยายจำนวนการใช้งานรถ EV ในครั้งนี้ทำให้ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส เป็นผู้ให้บริการลอจิสติกส์รายแรกในประเทศไทยที่เปลี่ยนไปใช้รถ EV ในเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ รถขนส่งพลังงานไฟฟ้านี้เริ่มทำการขนส่งสินค้าในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2566 

 

โดยให้บริการในกรุงเทพ เขตพื้นที่ต่างๆ ได้แก่ สาทร, สีลม, ปทุมวัน, พระราม 3, ถนนสุขุมวิท, และถนนเพชรบุรีตัดใหม่ โดยดีเอชแอลมีแผนที่จะเพิ่มรถขนส่งพลังงานไฟฟ้าอีก 5 คันในเฟสถัดไป เพื่อใช้งานในเส้นทางภาคตะวันออก ซึ่งจะทำให้ดีเอชแอลมีรถ EV ที่ให้บริการทั้งหมดในประเทศไทยรวมจำนวน 71 คัน ภายในปี 2566 ทั้งนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะเปลี่ยนมาใช้รถ EV เป็นจำนวน 60% ของยานพาหนะทั้งหมดในประเทศไทย ภายในปี 2573

 

เฮอร์เบิร์ต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย และหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน กล่าวว่า “ความยั่งยืนไม่ใช่เทรนด์ แต่เป็นภารกิจที่เราให้ความสำคัญมาเป็นอันดับหนึ่ง และดีเอชแอลมีแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมลอจิสติกส์ระดับโลก เราจำเป็นต้องผลักดันให้ทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมร่วมมือกันเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในการดำเนินงานด้านลอจิสติกส์ และเรากำลังเดินหน้าสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิให้เหลือศูนย์ ภายในปี 2593 

 

โดยให้ความสำคัญกับการเป็นกรีนลอจิสติกส์ ด้วยการเปลี่ยนไปใช้รถขนส่งพลังงานไฟฟ้า ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย ตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งสิ้น 436 ตันต่อปี โดยรถขนส่งพลังงานไฟฟ้าชุดนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการนำเราไปสู่ลอจิสติกส์ที่ยั่งยืน และการสร้างอนาคตที่เอื้อประโยชน์ให้แก่ทุกคน”

บิ๊กป้อม อ้อนคนเหนือ ขอให้เชื่อมั่นพปชร. เผยพร้อมแก้ไขปัญหาภาคเหนือ

เมื่อวานนี้ (19 มี.ค. 66) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวปราศรัยบนเวทีอาคารยิมเนเชี่ยมสนามกีฬาสมโภช 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่ ว่า สวัสดีชาวเชียงใหม่ที่รักทุกคน รู้สึกอบอุ่นใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้มาอยู่ท่ามกลางพวกเราทุกคนที่นี่ จังหวัดเชียงใหม่มีการท่องเที่ยวที่ก้าวหน้าเป็นอย่างยิ่ง ผมขอฝากพรรคพลังประชารัฐไว้กับพี่น้องทุกคนด้วย

 

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การมาพบปะพี่น้องชาวเชียงใหม่ครั้งนี้เพื่อต้องการให้ทุกคนมั่นใจว่า พรรคพร้อมทำงานรับใช้ชาวเชียงใหม่ทุกคน และขอให้ทุกคนเลือกผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐให้ครบทุกเขต เพราะเราได้คัดสรรคนดี คนเก่ง คนที่ตั้งใจจริงมาเป็นผู้แทนให้กับพี่น้องทุกคน โดยมุ่งมั่นที่จะทำงานแก้ไขปัญหาทุกๆ เรื่องให้เกิดเป็นประโยชน์กับชาวเชียงใหม่ เพื่อให้ทุกคนอยู่ดีกินดีขึ้น 

 

"เรานำนโยบายที่เป็นประโยชน์มามอบให้กับทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 700 บาท ผมจะทำทันดี เมื่อได้เป็นรัฐบาลมาบริหารประเทศ รวมถึงการลดราคาพลังงาน ค่าไฟฟ้า ค่าแก๊ส ก็อยู่ในความคิดของพรรคพลังประชารัฐที่จะทำทันทีเช่นเดียวกัน การดูแลคนทุกช่วงวัยก็เช่นเดียวกันการ 345 678 เราจะดูแลผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป ส่วนแม่และเด็ก พรรคเราก็ไม่ทอดทิ้ง เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ และความไม่เป็นธรรมในสังคม" พล.อ.ประวิตร 

 

 การแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำท่วมน้ำแล้ง น้ำเสีย เป็นภารกิจที่สำคัญจะต้องทำเพื่อให้ทุกคนมีความเป็นอยู่ที่ดี ในการใช้น้ำเพื่ออุปโภคบริโภค และเพื่อการเกษตร โดยเฉพาะน้ำประปาจะต้องมีความสะอาด เป็นเรื่องที่ผมต้องดำเนินการให้ทุกคนได้ใช้น้ำอย่างมีคุณภาพ ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ก็เป็นภารกิจที่สำคัญที่เป็นปัญหาเรื้อรังของชาวภาคเหนือ เราจะลดปัญหานี้ทันที เมื่อเราได้เป็นรัฐบาล รวมไปถึงการปราบปรามขบวนการยาเสพติด เราจะป้องกันการระบาด และการฟื้นฟูผู้ที่ติดยาเสพติดได้กลับคืนสู่สังคมโดยเร็ว 

 

ส่วนเรื่องการใช้ที่ดินของรัฐ ตนกำลังทำอยู่ โดยจะให้คนที่ถือที่ดิน ส.ป.ก. ที่ดินของรัฐ และในป่าสงวน เราพยายามให้ทุกคนมีโอกาสมาเป็นเจ้าของที่ดิน โดยการออกโฉนดให้ ฝากทุกคนว่าให้เลือก พปชร. ทุกอย่างที่ตนพูด เราจะทำให้ท่านทันที ส่วนปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ อาชญากรรมออนไลน์ ที่เป็นอันตรายต่อประเทศ ต้องแก้ปัญหาได้ทันที ซึ่งเราทำมาแล้วและจะทำต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ขณะที่เรื่องการท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักของ จ.เชียงใหม่ ยืนยันว่าจะมาต่อยอด ดำเนินการให้ จ.เชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างแท้จริง

 

“การเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ขอให้ประชาชนให้โอกาส พปชร. พวกเราอาสาเข้ามานำความรัก สามัคคีมาสู่ประเทศชาติของเรา หมดเวลาแล้วที่คนไทยจะมาทะเลาะกันเอง ต้องจับมือกัน นำประเทศไปสู่ก้าวหน้า เพื่อความสงบของคนไทยทุกคน ฝากกับทุกคนว่า ถ้าอยากให้ประเทศมีความรัก สงบสุข สันติภาพเกิดขึ้น และมีความเป็นหนึ่งเดียวต้องเลือก พปชร. ฉะนั้น ตนฝากชาวเชียงใหม่ว่า ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคพร้อมที่จะทำงานให้กับทุกคนในการแก้ปัญหาของทุกเรื่อง เพื่อความสงบสุข ความอยู่ดีกินดีของคนทุกระดับ” พล.อ.ประวิตร ทั้งนี้หลังการปราศรัย พล.อ.ประวิตร ได้เดินลงไปพบปะประชาชน โดยมีประชาชนมาหอมแก้ม กอด และขอถ่ายรูป คล้องมาลัย และให้กำลังใจ ขอให้เป็นนายกฯ คนที่ 30 และ ลุงป้อมสู้ๆ โดย พล.อ.ประวิตร ก็ทักทายประชาชนอย่างเป็นกันเอง

บิ๊กตู่ สั่งเข้ม เร่งช่วยเหลือปชช. เชียงใหม่ ที่ประสบภัยจากพายุฤดูร้อน

เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 19 มี.ค. 2566 ที่เดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงเกิดเหตุพายุฤดูร้อนที่จังหวัด เชียงใหม่ ทำให้มีลูกเห็บตก เกิดความเสียหายจำนวนมากในพื้นที่ ว่า "ได้สั่งการไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ ให้หน่วยงานหลายกระทรวง ที่เกี่ยวข้อง เข้าไปดูแลให้ดีที่สุด"

 

#นอร์ทไทม์

หน่วยทหารลำปาง เร่งเข้าช่วยเหลือประชาชนประสบวาตภัยพายุลมร้อน

เมื่อวันที่ 17 มีค.2566 เวลา 13.00 น. พลตรี พรชัย นพรัตน์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 มอบหมายให้ พันเอกบรรจง คะวงศ์ดอน รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 32/วิทยากรจิตอาสา 904 จัดกำลังพลจิตอาสา มณฑลทหารบกที่ 32, ชุดหมอเดินเท้า โรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรี, ชป.กร.มทบ.32 ร่วมกับ กอ.รมน.จว.ลป., ฝ่ายปกครองอำเภอห้างฉัตร, เทศบาลตำบลเมืองยาว และประชาชนจิตอาสา ร่วมเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากวาตภัยพายุลมร้อน พื้นที่ตำบลเมืองยาว อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง พร้อมทั้งจัดถุงยังชีพ ยาสามัญประจำสามัญประจำบ้าน นำไปมอบให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ประสบภัย 


อีกทั้ง จัดกำลังพลจิตอาสา ร.17/2 เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบวาตภัย ในเขตพื้นที่ ตำบลเสริมซ้าย อำเภอเสริมงาม สร้างความรักความศรัทธาของหน่วยทหาร ที่มีความห่วงใย ต่อพี่น้องประชาชน ที่ประสบภัย ชาวจังหวัดลำปาง

 

#นอร์ทไทม์

โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านพลาสมาและเทคโนโลยีฟิวชัน ระหว่าง ปตท. และ สทน.

ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) (ซ้าย) และ ดร.หาญณรงค์ ฉ่ำทรัพย์ รองผู้อำนวยการ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สทน.) (ขวา) ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านพลาสมาและเทคโนโลยีฟิวชัน ระหว่าง ปตท. และ สทน.

 

โดยมีผู้บริหารของทั้งสองฝ่ายร่วมเป็นสักขีพยาน การผนึกกำลังของ ปตท. และ สทน. ในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อร่วมมือกันในด้านการวิจัยและพัฒนาพลาสมา เทคโนโลยีฟิวชัน และห้องปฏิบัติการขั้นสูง

 

โดยมุ่งเน้นให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการวิจัยและพัฒนาด้านพลาสมาและเทคโนโลยีฟิวชันในอาเซียนภายในปี พ.ศ. 2570 รวมทั้งแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในด้านงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ระหว่าง ปตท. และ สทน.

 

ทั้งนี้ ความร่วมมือในครั้งนี้ยังสอดรับกับเป้าหมายของกลุ่ม ปตท. ที่มุ่งมั่นแสวงหาเทคโนโลยีใหม่ที่มีศักยภาพในการบรรลุเป้าหมายการเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)

 

เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนในการพัฒนานวัตกรรมพลังงานยั่งยืน ที่พร้อมพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย ควบคู่ไปกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ชุมชนและสังคมต่อไป

 

พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อแสวงหาโอกาสในการเข้าสู่ธุรกิจ E-Truck และ E-Mobility ครบวงจร

นายเชิดชัย บุญชูช่วย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (กลาง) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อแสวงหาโอกาสในการเข้าสู่ธุรกิจ E-Truck และ E-Mobility ครบวงจร และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย

 

โดยมี นายเอกชัย ยิ้มสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (Arun Plus) (ที่ 2 จากซ้าย) Mr. Da Rui (ดา รุย) Managing Director Southeast Asia, SANY Heavy Industry (Thailand) Co., Ltd. (SANY) (ที่ 2 จากขวา) คุณ ฉกาจ แสนจัน Chief Executive Officer, Leadway Heavy Machinery Co., Ltd. (Leadway) (ซ้ายสุด) และ Mr. Ho Howe Tian (โฮ ฮาว เทียน) Managing Director ASEAN, Rootcloud Technology Co., Ltd. (Rootcloud) (ขวาสุด) ร่วมลงนาม

 

ความร่วมมือครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาโมเดลธุรกิจที่เหมาะสมสำหรับการผลิต ช่องทางการขาย และการจัดจำหน่าย E-Truck และเทคโนโลยี E-Mobility ในไทยและภูมิภาคอาเซียน สอดคล้องกับแผนการลงทุนในธุรกิจโลจิสติกส์ตามทิศทางของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 และกลยุทธ์ New S-Curve ของ ปตท. ในกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐาน

 

ที่มุ่งเน้นการเชื่อมโยงระบบเครือข่ายขนส่งทั้งหมดของประเทศไทยและระบบขนส่งเชื่อมต่อระหว่างประเทศ อาทิ การขนส่งสินค้าทางราง ทางทะเล ทางบก และทางอากาศ E-Truck และ E-Mobility

 

จึงมีส่วนสำคัญยิ่งต่อการดำเนินธุรกิจโลจิสติกส์ ช่วยขับเคลื่อนระบบการขนส่งของไทยไปสู่การเป็นผู้ให้บริการแบบครบวงจรต่อไป

“ พูดแล้วทำ “

น.ส.นันทิยา วงศ์วานิชย์ (ฝน) ลูกสาว นายอนันต์ วงศ์วานิชย์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองแม่ฮ่อง สอน 8 สมัย เปิดใจที่จะพัฒนาบ้านเกิด ให้ทัดเทียมกับเมืองใหญ่ที่เจริญแล้ว

 

ล่าสุด ฝน นันทิยา วงศ์วานิชย์ เปิดตัวตัดสินใจเลือกเส้นทางการเมือง เข้าสังกัดพรรคภูมใจไทย ว่าที่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย แม่ฮ่อง สอน เขต 1 ด้วยสโลแกนของพรรคภูมิใจไทย “ พูดแล้วทำ “

 

น.ส.นันทิยา วงศ์วานิชย์ อดีตผู้อำนวยการกองประกวดมิสแกรนด์จังหวัดแม่ฮ่องสอน สายเลือดนักการเมือง และเป็นสายเลือดแม่ฮ่องสอนโดยกำเนิด ใจซื่อ มือสะอาด เจริญตามรอยพ่อ อาสาพัฒนาบ้านเกิด ขอโอกาสจากชาวแม่ฮ่องสอน โอกาสเดียวที่จะเปลี่ยน ( ฝน) นันทิยาฯ เชื่อมั่น!!ภูมิใจไทย สามารถเปลี่ยนและพัฒนาบ้านเกิดได้

 

โดย นันทิยา วงศ์วานิชย์ ว่าที่ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนได้ลงพื้นที่พบปะ กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนทุกอำเภอในเขตเลือกตั้งที่ 1 มาแล้วหลายปี และไปมาแล้วเกือบทุกหมู่บ้านใน 4 อำเภอ ได้รับการตอบรับกับชาวบ้านเป็นอย่างดี

 

สำหรับสนามเลือกตั้งแม่ฮ่องสอนในตอนนี้ ถึงแม้จะยังไม่มีการประกาศให้มีการเลือกตั้ง อย่างเป็นทางการแต่ก็มีการลงพื้นที่หาเสียงอย่างเข้มข้น จาก ว่าที่ผู้สมัครในพรรคดัง ๆ ได้แก่ นายจำลอง รุ่งเรือง พรรครวมไทยสร้างชาติ , นายดนุภัทร เชียงชุม ว่าที่ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์, นายสมภพ คงความซื่อ ว่าที่ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย คาดว่าต่างฝ่ายต่างงัดไม้ตายมาสู้กันจนสุดความสามารถ

 

สิริมงคลในโอกาสเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดเชียงใหม่จากนายก

วันที่ 16 มี.ค.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ จังหวัดเชียงใหม่ ในวันศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2566 เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล

 

โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายอรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมลงพื้นที่ตรวจราชการ โดยมีกำหนดการ ดังนี้

 

เวลาประมาณ 08.30 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศ แล้วเดินทางไปถวายเครื่องสักการะและกราบอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย

 

เพื่อความเป็นสิริมงคลในโอกาสเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยังวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรับฟังข้อเสนอการสนับสนุนแผนแม่บทโครงการเสนอชื่อครูบาเจ้าศรีวิชัยเป็นบุคคลสำคัญของโลก กลุ่ม 10 จังหวัดภาคเหนือ

 

หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเดินทางต่อไปยังศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติฯ เชียงใหม่ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อพบปะประชาชนชาวเชียงใหม่และติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ได้แก่

 

1) โครงการฟื้นฟูสุขภาพช่องปากด้วยรากฟันเทียมที่พัฒนาขึ้นเอง คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โครงการปรับปรุงอาคารผู้ป่วยหลวงปู่แหวน “สุจิณโณ” โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และด้านพลังงานสะอาด พลังงานทดแทน การแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ

 

2) การพัฒนา AI เพื่อช่วยเหลือการทำงานและดูแลสุขภาพ และ

 

3) การพัฒนาแปรรูปพืชพื้นบ้าน/ผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน การส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การส่งเสริมนวัตกรรมเพื่อชุมชน

 

จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อตรวจเยี่ยมการพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจะเดินทางกลับถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ในเวลาประมาณ 17.45 น.

 

ทั้งนี้ กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม “การลงพื้นที่ตรวจราชการของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล รวมถึงรับฟังปัญหาและความเป็นอยู่ของประชาชน

 

ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของภาคเหนือ มีความโดดเด่นมีนวัตกรรมที่ต่อยอดให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์และบริการมูลค่าสูงตามแนวทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และแนวทางการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ (Northern Economic Corridor : NEC – Creative LANNA) รวมทั้งโดดเด่นทางศิลปวัฒนธรรมล้านนาและภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีอัตลักษณ์ และเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของไทยที่ได้รับความนิยมในระดับโลก

 

โดยรัฐบาลมุ่งพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ เป็นประตูการค้าการลงทุนสู่สากล ผ่านการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและสังคม และพร้อมดูแลประชาชนทุกคนในพื้นที่ ยกระดับรายได้ และคุณภาพชีวิต เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” นายอนุชา กล่าว

 

บรรยายพฤติการณ์การกระทำผิดต่างๆของนายอัจฉริยะ ตามคำฟ้อง

นายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความ ซึ่งได้รับมอบหมายจาก นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณียื่นฟ้อง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ข้อหาหมิ่นประมาท และเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท ต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 ว่า

 

คดีนี้ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 10 เมษายน 2566 เวลา 09.00 น. ซึ่งทีมทนายความ ได้มีการซักซ้อมพยานและแสวงหาหลักฐานเพิ่มเติมพบว่า รูปคดีฝ่ายโจทก์มีข้อมูลเพียงพอที่จะสามารถเอาผิดจำเลยได้ โดยสามารถตัดพยานบางปากออกไปได้เพื่อความรวดเร็วในพิจารณาคดีของศาล

 

นายเรืองศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ในการไลฟ์สดของนายอัจฉริยะ บางครั้งมีการนำภาพของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร มาประกอบการอ้างอิงต่างๆนานาด้วย จึงเป็นประเด็นที่ทีมกฎหมายต้องนำสืบข้อเท็จจริงต่าง ๆ หักล้าง

 

โดยเห็นสมควรต้องนำพยานที่ถูกพาดพิง ขึ้นเบิกความต่อศาลด้วยตัวเอง เพื่อประกอบการบรรยายพฤติการณ์การกระทำผิดต่างๆของนายอัจฉริยะ ตามคำฟ้อง และคิดว่า เป็นประโยชน์ต่อตัวของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ที่ถูกกล่าวพาดพิงด้วย ทีมกฎหมายจึงได้บรรจุชื่อ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ไว้ในบัญชีพยาน

 

โดยที่ยังไม่ได้แจ้งให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ทราบ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา ทีมกฎหมายพยายามประสานงานไป แต่ก็ยังไม่สามารถติดต่อ พบปะ พูดคุย หรือแจ้งให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ทราบได้ การดำเนินการต่อจากนี้ก็จะได้มีการประสานและชี้แจงเหตุผลความจำเป็นให้กับพยานแต่ละท่านทราบ แต่หากพยานท่านหนึ่งท่านใดไม่ประสงค์จะขึ้นเบิกความ ก็สามารถถอนรายชื่อออกไปจากบัญชีพยานได้

 

ฝุ่นตรึม!

วันนี้(12 มี.ค.66) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า สถานการณ์ปัญหาฝุ่นควัน ไฟป่า และคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ยังคงทวีความรุนแรงและค่ามลพิษอากาศสูงเกินมาตรฐานอยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยสภาพทั่วทั้งตัวเมืองเชียงใหม่ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควันหนาทึบจนไม่สามารถมองเห็นยอดดอยสุเทพได้จากระยะไกลเหมือนปกติ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดทางกายภาพที่บ่งบอกถึงความรุนแรงของสถานการณ์ปัญหามลพิษอากาศได้เป็นอย่างดี และเป็นเช่นนี้ติดต่อกันทุกวันมานานหลายสัปดาห์แล้ว

.

ทั้งนี้เว็บไซต์ Iqair.com ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศจากทั่วโลก แจ้งผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศและการจัดอันดับเมืองที่มลพิษทั่วโลก เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ พบว่าจังหวัดเชียงใหม่มีดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 212 US AQI และค่า PM 2.5 วัดค่าได้ 161.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินค่ามาตรฐาน และอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อทุกคนอย่างรุนแรง โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศดังกล่าวสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ของเมืองหลักที่มีมลพิษอากาศสูงสุดของโลก ซึ่งค่ามลพิษอากาศของจังหวัดเชียงใหม่อยู่อันดับที่ 1 ของโลก เกือบตลอดทั้งวานนี้และต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ สำหรับ 3 อันดับแรกเมืองหลักที่มีมลพิษอากาศสูงสุดของโลก ในช่วงเวลาเดียวกันของวันนี้ ได้แก่ อันดับ 1. เชียงใหม่ ประเทศไทย ดัชนีคุณภาพอากาศ 212 US AQI, อันดับ 2. เมืองโกลกาตา ประเทศอินเดีย 209 US AQI และอันดับ 3. เมืองเดลี ประเทศอินเดีย 184 US AQI

.

ขณะที่รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่ จากสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ ในตำบลช้างเผือก, ตำบลศรีภูมิ, ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่, ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม,ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว และตำบลหางดง อำเภอฮอด พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. วันนี้อยู่ที่ 109 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 97 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 108 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 102 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 141 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 129 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 219,207,218,212,251 และ 239 ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 100 ซึ่งภาพรวมคุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ

.

รายงานข่าวแจ้งว่า แม้ว่าที่ผ่านมาทางจังหวัดเชียงใหม่และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะพยายามดำเนินทุกมาตรการเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งสมารถควบคุมจุดความร้อนจากการเผา หรือ HotSpot ในพื้นที่ได้ค่อนข้างดี อย่างไรก็ตามประสบปัญหาฝุ่นควันที่ถูกพัดพาจากต่างพื้นที่เข้ามาสะสมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าในช่วงวันที่ 12-14 มี.ค. 66 จะเกิดพายุฤดูร้อนและฝนฟ้าคะนองในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยที่ช่วยคลี่คลายบรรเทาสถานการณ์มลพิษอากาศที่รุนแรงลงได้ในระดับหนึ่ง

.

ที่มา : mgr online

.

#นอร์ทไทม์

ทหารประตูผา ลดไฟป่า

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ร.อ.พิภพ วงค์ษา รองผู้บังคับกองร้อยฝึกรบพิเศษที่ 3 รักษาราชการแทน ผู้บังคับกองร้อยฝึกรบพิเศษที่ 3 ค่ายประตูผา จังหวัดลำปาง มอบหมายให้ชุดทำงานด้านประชาสัมพันธ์ของหน่วย, จิตอาสาพระราชทาน และชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือนมณฑลทหารบกที่ 32 ประจำอำเภอ ชุดที่ 5 ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันในภาคเหนือกับค่า PM 2.5 ณ ศาลเจ้าพ่อประตูผา และ บ้านขุนแม่หวด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง

.

ภาวินันท์ บุตรหล้า รายงาน

.

#นอร์ทไทม์

กลุ่มรักษ์เชียงของและประชาชนเชียงของจำนวนหนึ่งไม่เห็นด้วยกับการที่จะถูกแบ่งออกเป็น 2 เขต

ภายหลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย (กกต.เชียงราย) ได้ประกาศรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงรายแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ปี พ.ศ. 2566 เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2566 โดยแบ่งเขตเลือกตั้งเป็น 7 เขต

 

โดย กกต.ได้จัดทำรูปแบบการแบ่งเขตเป็น 3 รูปแบบ และออกประกาศรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและพรรมการเมืองในพื้นที่ แต่ปรากฏว่าทั้ง 3 รูปแบบ พื้นที่อำเภอเชียงของได้ถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนเพื่อไปรวมกับเขตอำเภออื่น ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และเสียงคัดค้านอย่างกว้างขวาง

 

นายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของ และภาคประชาสังคมเชียงของ กล่าวว่า จากการพิจารณาแล้วพบว่าทั้ง 3 รูปแบบที่ทาง กกต.เชียงรายประกาศนั้น พื้นที่อำเภอเชียงของถูกแบ่งเป็น 2 เขตเลือกตั้ง ทางกลุ่มรักษ์เชียงของและประชาชนเชียงของจำนวนหนึ่งไม่เห็นด้วยกับการที่จะถูกแบ่งออกเป็น 2 เขต ด้วยเหตุผล

 

1. การแบ่งเขตเลือกตั้งนั้นมีนัยะสำคัญเกี่ยวพันกับการกำหนดการพัฒนาอำเภอเชียงของในอนาคต หากการแบ่งเขตครั้งนี้เมืองเชียงของถูกแยกพื้นที่เลือกตั้งในขณะที่เชียงของเป็นเมืองหน้าด่านด้านคมนาคมขนส่งเชื่อมต่อเส้นทาง R3A ที่เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ภูมิภาค และเมืองที่จะต้องพัฒนาในรูปแบบความเป็นวัฒนธรรมวิถีที่มีแนวทางเป็นของตัวเอง ที่มีความเป็นมาแต่อดีตแล้วแต่กลับถูกแบ่งออกไปจึงมีคำถามว่าผู้แทนทั้ง 2 คน จะดูแลและปฏิบัติไปในแนวทางใดกับอำเภอเชียงของในด้านการพัฒนา ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของกล่าวว่า

 

2. เป็นการเสียโอกาสของคนในพื้นที่ที่จะมีตัวแทนที่เข้าใจความเป็นท้องถิ่นอย่างชัดเจนในความเป็นเมืองหน้าด่าน การแบ่งเชียงของเป็น 2 เขตเหมือนเป็นการตัดตอนเมื่อมีการแบ่งเขตออกไป คนเชียงของจึงต้องการรับทราบเหตุผลในการแบ่งเชียงของที่เป็นเมืองที่มีหน่วยงานองค์กรที่เกี่ยวข้องที่ดำเนินการดูแลครอบคลุมพื้นที่อย่างเป็นระบบ เมืองเชียงของนั้นสำคัญที่จะต้องมีความเป็นหนึ่งที่จะพัฒนาไปในทางเดียวกัน จึงไม่ควรแยกเชียงของเป็น 2 เขต

 

“การแบ่งเขตลักษณะนี้เป็นเรื่องประโยชน์ใดในทางการเมืองหรือไม่นั้น ผมไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่หากมองในฐานะประชาชนคนท้องถิ่นเห็นว่ามันไม่ถูกต้อง ดังนั้นทางกลุ่มรักษ์เชียงของ พวกเราได้รับฟังเสียงประชาชนได้พื้นที่ และเตรียมส่งหนังสือเพื่อเสนอแนะ และยืนยันจุดยืนในฐานะคนเชียงของ ให้ กกต.ทบทวนการแบ่งเขตเลือกตั้งครั้งนี้ใหม่ที่ควรจะมีรูปแบบไม่แบ่งเชียงของเป็น 2 เขตเลือกตั้ง” นายนิวัฒน์ กล่าว

 

ขณะที่นายปรพล พูตระกูล ผอ.กกต.เชียงราย กล่าวว่า กต.เชียงราย พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน องค์กร และพรรคการเมืองในพื้นที่หากมีข้อเสนอและข้อแนะนำสามารถเขียนในแบบฟอร์มรับฟังความคิดเห็นให้เลือกรูปแบบที่เหมาะสมจากที่ กกต.เชียงรายเสนอ ส่วนการแบ่งเขตนั้นแบ่งตามหลักการเงื่อนไขจำนวนประชากร และจะต้องมีอำเภอที่มีถูกแบ่งเป็น 2 เขต ภายใต้ข้อจำกัด

 

อย่างไรก็ตามหากมีองค์กร หรือประชาชนมีความเห็นในการแบ่งรูปแบบที่แตกต่างสามารถเสนอความเห็นมาได้ภายในเวลาที่กำหนดคือ 13 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการตั้งข้อสังเกตจากหลายภาคส่วนทั้งตัวแทนผู้สมัครที่เห็นว่า มีความไม่เหมาะสมในเรื่องภูมิประเทศและพื้นที่ในการเดินทางดูแล#นอร์ทไทม์ ละเชียงของเป็นเมืองหน้าด่าน และเป็นเมืองหลักจึงไม่ควรถูกแบ่ง เมื่อเทียบกับการแบ่งเขตในการเลือกตั้ง ส.ส.ในปี 2562 นั้น เชียงของอยู่ในเขต 5 ยกอำเภอ

 

แต่การแบ่งเขตในครั้งนี้ถูกแบ่งเป็นเขต 5 และเขต 7 จะมีรูปแบบเปลี่ยนไป ในการแบ่งเขตครั้งนี้ เชียงของจะถูกแบ่งไปรวมกับ แม่สายและเชียงแสน ที่เป็นเมืองยุทธศาสตร์ 3 เมืองชายขอบเขตเศรษฐกิจพิเศษ จากเดิมที่แบ่งตามภูมิประเทศที่มีความสะดวกในการเดินทาง

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเลือกตั้งในอดีตพื้นที่อำเภอเชียงของไม่เคยถูกแบ่งเขตไปไว้ที่อื่น ขณะนี้เริ่มมีความเคลื่อนไหวในกลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้านและผู้นำชุมชนที่ไม่เห็นด้วยกับการแบ่งพื้นที่เชียงของ และได้เตรียมร่วมกันลงชื่อเพื่อนำเสนอต่อ กกต. โดยเฉพาะ ต.ห้วยซ้อ ต.บุญเรือง และ ต.ครึ่ง ที่มีการเคลื่อนไหวกันอย่างกว้างขวาง

 

รางวัล Partner of the Year 2022

เมื่อไม่นานมานี้ ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) รับรางวัล Microsoft Partner of the Year 2022 จากนายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ในโอกาสที่บริษัท เมฆา วี จำกัด (Mekha V) ซึ่งเป็น Flagship ด้าน AI, Robotics & Digitalization ของกลุ่ม ปตท. ได้รับรางวัลสาขา ‘Intelligent Cloud กลุ่มธุรกิจภาครัฐ ภาคการศึกษา และสาธารณสุข’ สะท้อนความสำเร็จในการพัฒนาและเติมเต็มระบบนิเวศการใช้คลาวด์ (Cloud Ecosystem) ของกลุ่ม ปตท.

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านดิจิทัล และสร้างโอกาสการเติบโตไปยังธุรกิจที่ไกลกว่าการใช้เทคโนโลยีคลาวด์ ควบคู่กับการพัฒนานวัตกรรมที่หลากหลายบนดิจิทัลแพลตฟอร์มให้ตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ ๆ ตามทิศทางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจใหม่ของ ปตท.

รางวัล Partner of the Year 2022 เป็นรางวัลที่มอบให้พันธมิตรที่นำเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ไปสรรสร้างนวัตกรรม และพัฒนา Solution สำหรับการดำเนินธุรกิจที่หลากหลาย และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเพิ่มขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีใหม่ให้กับองค์กร สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต


© Copyright 2022, All rights reserved. North Time Thailand
Take Me Top