Wednesday, 24 April 2024
North Time Team

เสธ.หิ ลั่น ไม่มีอำนาจ สั่งการกำลังพล

จากกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ และประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคเหนือ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า บ้านใหญ่เจ๊ ล. ขาใหญ่อำเภอปง พะเยา ซึ่งเป็นพี่สาว ผู้สมัคร ส.ส. พะเยา เขต 3 ของพรรคหนึ่ง ที่ตอนนี้ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลกร่าง ผู้นำท้องถิ่น ท้องที่ เล่าให้ฟังว่า

 

พอไปถึงบ้านเจ๊ ล. ก็มีกองกำลังทหารเกือบ 1 หมวด พกอาวุธ (ปืนสั้น) ภายใต้การควบคุมของเสธ น. (ลูกน้องเสธ นอกราชการคนดัง) และข่มขู่ว่าจะจัดการกับผู้นำขั้นเด็ดขาดหากไม่ช่วยผู้สมัครรายนี้ จะเริ่มปฏิบัติการโดยใช้กองกำลังทหารค้นบ้านผู้นำทุกรายที่เห็นต่าง

 

ทั้งนี้ การออกมาโพสต์ข้อความดังกล่าว ประจวบเหมาะกับ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) รับผิดชอบการเลือกตั้งภาคเหนือของพรรค ได้เดินทางไปร่วมโชว์วิสัยทัศน์ ในรายการ BIG DEBATE เวทีจังหวัดพะเยา ซึ่งจัดโดยสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 66 ที่ผ่านมา พอดี

 

เป็นไปได้ว่า เสธ.นอกราชการคนดัง ที่ ร.อ.ธรรมนัส ระบุถึง ก็คือ ดร.หิมาลัย นั่นเอง

 

ล่าสุด ดร.หิมาลัย ได้กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนเองเพิ่งมีโอกาสเดินทางไปจังหวัดพะเยาครั้งแรก เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมา เพื่อร่วมเวทีดีเบต ซึ่งทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 เป็นผู้จัด เมื่อเดินทางถึงจังหวัดพะเยา ก็ได้ไปพูดคุยกับคุณไพโรจน์ ตันบรรจง ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค เพื่อต้องการรับทราบประเด็นปัญหาของจังหวัดพะเยา สำหรับใช้เป็นข้อมูลในการดีเบต จากนั้น จึงเดินทางไปยังเวทีดีเบต และอยู่ในพื้นที่นั้นตลอดเวลาโดยไม่ได้เดินทางออกนอกพื้นที่เลย

 

และภายหลังจากเสร็จงานดีเบต ซึ่งจบราวเที่ยงคืน จากนั้นก็ได้เดินทางไปส่งทีมงานของคุณโพโรจน์ ที่มาช่วยให้ข้อมูลจังหวัดพะเยา สำหรับใช้บนเวทีดีเบต และพูดคุยกันอีกซักพัก จึงได้เดินทางกลับไปพักผ่อนที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งกำหนดการลงพื้นที่จังหวัดพะเยาเป็นไปตามนี้ โดยไม่มีการไปทำกิจกรรมอื่นใดในพื้นที่จังหวัดพะเยาเลย

 

“อย่างที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า ผมไม่ได้รับราชการทหารมานานแล้ว จึงไม่มีอำนาจไปสั่งการกำลังพลในหน่วยใดทั้งสิ้น และที่สำคัญทางผู้บัญชาการทหารทุกเหล่าทัพ ได้สั่งการห้ามกำลังพลยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเด็ดขาด จึงไม่น่าจะมีใครกล้าฝ่าฝืนคำสั่ง เนื่องจากอาจจะถูกดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญา แต่หากพบว่ามีทหารใช้อิทธิพลและมีหลักฐานชัดเจน ผมสนับสนุนให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์และยุติธรรม”

"นพวรรณ" ซัด "อนุสรณ์" เหตุกล่าวหา พปชร. บิดเบือน

จากกรณีที่ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่าได้ปราศรัยโจมตีการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เป็นการบิดเบือน ใส่ร้าย เพราะนโยบายที่พรรคเพื่อไทย นำเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สนับสนุนการเกณฑ์ทหาร เป็นระบบสมัครใจนั้น

 

ล่าสุด น.ส.นพวรรณ หัวใจมั่น ผู้สมัคร ส.ส. เขต 12 กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การที่ทางพรรคพลังประชารัฐ ได้หยิบยกประเด็นการยกเลิกการเกณฑ์ทหารขึ้นมาปราศรัย ความจริงเเล้ว การพูดถึงนโยบายนี้ของนายชัยวุฒิ ไม่ได้วิจารณ์เจาะจงเฉพาะพรรคเพื่อไทย เเต่พูดในภาพรวมเพื่อเเสดงจุดยืนว่าพรรคพลังประชารัฐไม่สนับสนุนการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เเต่อยากให้คงไว้เพื่อการฝึกความรักชาติ เเละความเสียสละให้กับคนรุ่นใหม่

 

และที่สำคัญ หากนาย อนุสรณ์ จะออกมาตอบโต้ ประเด็นนี้ อยากให้นายอนุสรณ์ ย้อนกลับไปดูการขึ้นเวทีดีเบตของคนพรรคเพื่อไทยเอง ที่เคยระบุว่า พรรคเพื่อไทยอาจจะยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ซึ่งได้ปรากฏข้อความดังกล่าวผ่านสื่อต่าง ๆ ที่ได้นำเสนอข่าวออกไปแล้ว แบบนี้ จะบอกว่าทางพรรคพลังประชารัฐ ตั้งใจบิดเบือนข้อเท็จจริงได้อย่างไร? ก็ในเมื่อคนของพรรคเพื่อไทยเป็นคนพูดเอง จึงไม่เรียกว่าเป็นการใส่ร้ายและโจมตีกัน

 

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า การที่พรรคเพื่อไทยนําเสนอเรื่องการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร อาจจะต้องการเอาใจวัยรุ่น เพื่อแข่งกับพรรคก้าวไกล จะเห็นได้จากในหลาย ๆ ดีเบตหรือเวทีปราศรัย และตามหน้าสื่อต่าง ๆ ทางพรรคเพื่อไทยก็ได้เสนอนโยบายนี้ ดังนั้น ขอยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐ พูดบนพื้นฐานข้อเท็จจริงที่ปรากฏ จึงไม่ใช่การบิดเบือนใส่ร้ายกันทางการเมืองแต่อย่างใด

 

แต่ในทางกลับกัน ทางพรรคเพื่อไทยต่างหาก ที่โจมตีพรรคพลังประชารัฐว่า เป็นพรรคทหาร รวมทั้งโจมตี ‘พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ’ หัวหน้าพรรค ว่าเป็นเผด็จการ ได้อำนาจมาจากการปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งทางพรรคพลังประชารัฐ ไม่เคยออกมาตอบโต้ในสิ่งที่พรรคเพื่อไทยนำไปโจมตีเลย แต่วันนี้ เราเพียงอยากจะใช้สิทธิ์พูดในสิ่งที่เห็นสมควร และขอยืนยันว่า ข้อมูลที่นำมาปราศรัยนั้นเป็นข้อมูลที่ถูกต้องไร้การบิดเบือน

 

ส่วนกรณีที่นายอนุสรณ์ บอกว่า นายชัยวุฒิ พาดพิงการเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของ พท. ซึ่งระบุว่า นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นตัวจริง ส่วนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นเพียงตัวหลอก เพื่อเรียกคะแนนนั้นนิยมนั้น ต่อกรณีดังกล่าว น.ส.นพวรรณ ยืนยันว่า การที่นายชัยวุฒิ กล่าวถึงแคนดิเดตนายกฯ พท. ตัวจริง หรือ ตัวหลอกนั้น ไม่ใช่เป็นการกล่าวพาดพิงเรื่องภายในพรรคอื่น แต่เป็นการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ จากบทบาทของแต่ละคน ที่ได้แสดงให้เห็นมาอย่างต่อเนื่อง หากมองในแง่คุณสมบัติของทั้ง 2 คน ยิ่งเห็นชัดว่า นางสาวแพทองธาร ยังขาดประสบการณ์ทั้งในด้านการเมืองและการบริหาร

 

ซึ่งถือเป็นจุดอ่อนของคนที่อาสาเข้ามาเป็น “ผู้นำประเทศ” แน่นอนว่า คนในพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร ย่อมมองเห็นจุดอ่อนตรงนี้ เพราะอย่าลืมว่า คนที่ห่วงใยและสนใจปัญหาบ้านเมือง ย่อมเลือกผู้นำที่มีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ โดยไม่สนใจว่า “คุณจะลูกหรือญาติ ใครอีกต่อไป” สุดท้ายจึงมีชื่อนายเศรษฐา มาประกบเป็นแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งคนส่วนใหญ่เชื่อว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ คือ “ตัวจริง”

 

ส่วนที่นายอนุสรณ์ บอกว่า การปราศรัยดังกล่าว เป็นการนำเสนอข้อมูลที่บิดเบือนนั้น น.ส.นพวรรณ ย้ำว่า ทั้งหมดที่กล่าวไปนั้น ตั้งอยู่บนพื้นฐานการวิเคราะห์ทางการเมือง ไม่ใช่เป็นการบิดเบือนใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะอย่างที่ทราบกันมาตลอดว่า “พรรคเพื่อไทย” มักทำอะไรที่คลุมเครือ ไม่ชัดเจน ชอบให้คนอื่นคาดเดาและตีความไปต่าง ๆ นา ๆ ไม่เหมือนกับพรรคการเมืองปกติอื่น ๆ ยกตัวอย่าง การเปิดตัวนางสาวแพทองธาร เข้าสู่การเมือง เริ่มต้นด้วยการเข้ามาเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ไม่มีตำแหน่งทางการบริหารพรรค แต่กลับมีบทบาทและมีคนเกรงใจ เหนือกว่า หมอชลน่าน ศรีแก้ว ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคเสียอีก จนมีคนกังขาว่า ใครเป็นหัวหน้าพรรคตัวจริงกันแน่

 

“ในฐานะที่เราเป็นนักการเมือง และอยู่ระหว่างการเลือกตั้ง การวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนของพรรคการเมืองที่เป็นคู่แข่ง จึงเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่พรรคการเมืองทั่วไปกระทำกัน และขอยืนยันว่า ไม่ใช่เป็นการหาเสียงใส่ร้าย หรือบิดเบือนใด ๆ ทั้งสิ้น” น.ส.นพวรรณ กล่าว

คึกคัก!! เชียงรายต้อนรับ นทท.จีน เที่ยวสงกรานต์ปี 66

วันที่ 10 เมษายน 2566 เวลา 13.30 น. นายเสริฐ ไชยยานันตา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนางสาวประกายพฤกษ์ พานิช เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย ร่วมต้อนรับคณะนักท่องเที่ยวคาราวานจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้งหมด 12 คณะ มีจำนวนนักท่องเที่ยว รวม 452 คน รถยนต์ จำนวน 141 คัน

 

โดยได้รับเกียรติจากนายสมหวัง บุญระยอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในการต้อนรับคณะฯ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาคเอกชน และสื่อมวลชน ร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ณ ด่านพรมแดนเชียงของ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย

 

จังหวัดเชียงราย โดย ภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ททท. สำนักงานคุนหมิง ททท. สำนักงานเชียงราย จัดกิจกรรมต้อนรับคาราวานขับรถท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน “Thailand ,We are Coming” เนื่องในโอกาสเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยและร่วมงานประเพณีสงกรานต์ของไทย ซึ่งเป็นคณะคาราวานขับรถยนต์ท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยในช่วงเดือนเมษายน ผ่านด่านพรมแดนเชียงของ ตั้งแต่วันที่ 1-28 เมษายน 2566 จำนวน 21 คณะ มีนักท่องเที่ยว รวม 678 คน รถยนต์ จำนวน 243 คัน

 

โดยคณะคาราวานฯ เป็นกลุ่มคาราวานรถยนต์ กลุ่มทำงาน กลุ่มครอบครัว ภายใต้โครงการ China is Back เพื่อฟื้นฟูและส่งเสริมให้เกิดการเดินทางนักท่องเที่ยวกลุ่ม Revisit ของภูมิภาคเอเชียตะวันออก ททท. และ ททท.สำนักงานคุนหมิง เดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทยในจังหวัดต่าง ๆ อาทิ เชียงราย เชียงใหม่ สุโขทัย กรุงเทพฯ ชลบุรี (พัทยา) เลย ขอนแก่น อุดรธานี เป็นต้น และร่วมงานประเพณีสงกรานต์ในจังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 12 เมษายน 2566

 

โดยร่วมกับพันธมิตรบริษัทนำเที่ยวกลุ่มจัดคาราวานรถยนต์ของจีน จัดนำคณะคาราวานรถยนต์เดินทางมาประเทศไทย โดยใช้เส้นทาง R3A จากเมืองคุนหมิง ผ่านด่านบ่อหาน (จีน) - บ่อเต็น (ลาว) - ด่านห้วยทราย (ลาว) - ด่านพรมแดนเชียงของ (สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4) โดยนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาในครั้งนี้ มาจากหลายเมือง เช่น มณฑลยูนนาน ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว กว่างตุ้ง เจียงซู กวางสี หางโจว อานฮุย เป็นต้น

 

ที่มา สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย

บจก.พลังงานมหานครรับโล่ประกาศเกียรติคุณ

ดร.เพ็ชร ชินบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บจก.พลังงานมหานคร บริษัทในกลุ่ม บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่องค์กรที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

 

โดยมี นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในงานพิธีมอบเกียรติบัตรและเข็มเชิดชูเกียรติ "คนดีเก่ง คนกล้า สปน." ณ ห้องประชุม 108 อรรถไกวัลวที ชั้น 1 อาคารสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อเร็ว ๆ นี้

"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" เปิดใจให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน

ไม่บ่อยครั้งนัก "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค จะเปิดใจให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ตอบคำถามอย่างชัดเจนจุดยืนทางการเมือง ความคาดหวัง และแนวโน้มทิศทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง14 พ.ค. 66 อย่างตรงไปตรงมาหลายเรื่องระหว่างการให้สัมภาษณ์พิเศษสื่อเครือเนชั่น

 

จุดแข็งของพรรคพลังประชารัฐ?

จุดแข็ง คือ พวกที่อยู่ในพรรคมีความรู้ ความสามารถ โดยคณะกรรมการ เป็นคนคัดเลือก และ สรรหาเข้ามาทุกคนมีความรู้ ความสามารถ ในการที่จะบริหารประเทศชาติ แต่ละคนก็มีโปรไฟล์ดีเป็นบุคคลากรที่มีคุณภาพ ทีมเศรษฐกิจทั้ง 5 คน มีที่ยืนด้วยกันทั้งนั้น เพราะต่างคนก็ต่างมีที่มา ยกตัวอย่างนโยบายประชารัฐ ก็เป็นของพรรคพลังประชารัฐที่ทำมาตั้งแต่ต้น นายอุตตม สาวนายน เป็นคนทำ

 

ถ้าได้นั่งนายกรัฐมนตรี สิ่งแรกที่ทำ?

หากได้เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี จะทำทันที ทุกเรื่องที่ทำให้ประชาชน อยู่ดีกินดีขึ้น ได้รับการแก้ไขปัญหา ที่ประชาชนเดือดร้อนทำทุกเรื่อง

 

ประชุมวันละกี่รอบ?

ประชุมทั้งวัน วันละหลายเรื่อง แต่ยอมรับว่าการเมืองจะหนักหน่อย เพราะมี 400 เขต เขตทับกันก็ต้องตัดสิน เขตทับกันทุกเขต ไม่มีใครยอมใคร ไปถามนักการเมืองมีใครยอมใครไหม

 

ทำไมตัดสินใจลง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1?

ผมไม่ได้ตัดสินใจอะไรเลย เพราะลูกพรรคให้ผมลง ผมทำตามมติพรรค เพราะพรรคมีคณะกรรมการสรรหา มติพรรคให้ลงก็ลง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ มติพรรคออกมาแบบนี้ก้ต้องทำตามมติ

 

มั่นใจไหมว่าจะได้กี่ที่นั่ง?

มั่นใจหรือไม่ขึ้นอยู่กับประชาชน ผมว่าไม่น้อยกว่า 70 ที่นั่ง

 

อะไรที่ทำให้มั่นใจ?

แต่ละคนที่มาสมัครมีคุณภาพ ดังนั้น ส.ส. ไม่น้อยกว่า 70 ที่นั่ง จาก ส.ส.แบบแบ่งเขต หรือ รวมแล้วอาจจะเกิน100 โดยประเมินจากการทำโพล หลายช่องทาง มั่นใจได้ยกจังหวัด ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ กำแพงเพชร พะเยา สมุทรปราการ สมุทรสาคร และสระแก้ว ส่วนกาญจนบุรี คะแนนไว้ที่ 3-5 คน

 

ภาพพลังประชารัฐกับภูมิใจไทย ลงตัวกันแล้วไปไหนไปกัน?

ลงตัวอย่างไรละต้องไปถามอนุทิน (นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย)

 

พลังประชารัฐกับรวมไทยสร้างชาติ จะจับมือกันไหม?

มีเงื่อนไขเดียว ว่าใครได้ ส.ส. มากกว่าก็เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

 

การเลือกตั้งปี 62 กับปี 66 แตกต่างกว่ากัน?

การเลือกตั้งปี 66 ยากกว่า ปี 62 เพราะแต่ละพรรคขนาดใหญ่ สู้กันเยอะ

 

เบอร์เกี่ยว?

เรื่องหมายเลขผู้สมัคร ทั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และ บัญชีรายชื่อ หากชาวบ้านต้องการรู้จริง ๆ ก็ไม่ใช่ปัญหา พรรคไม่ได้สนใจว่า พรรคการเมืองไหนจะมีกระแสอย่างไร แต่เสียงของรัฐบาล ต้องไม่ต่ำกว่า 251 เสียง ไม่มีรัฐบาลเสียงข้างน้อย

 

วิตกกังวลกระแสเพื่อไทยกับก้าวไกล หรือไม่ อีสาน กับ เหนือ กระแสดี?

ผมทำพรรคของผมเป็นหลัก ผมจะไปดูพรรคอื่นทำไม พรรคทุกพรรคดูพรรคตัวเองเป็นหลัก คือ ห้ามต่ำกว่า 70 เสียง คนอื่นได้เท่าไหร่ก็เรื่องของเค้า

 

จับมือเพื่อไทยได้?

คนละประเด็น อยากให้คนไทยรักกัน สามัคคีกัน นำพาประเทศไปด้วยกัน มีความคิดช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ส่วนทางการเมืองเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ใครจะคิดอย่างไรว่าไป เป็นเรื่องของสภา

 

สามป.ในทางการเมืองไม่มีแล้ว?

3 ป. (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา) หลังเลือกตั้งในทางการเมืองไม่มีแล้ว

 

สุขภาพจะส่งผลต่อสมรภูมิการเมืองลงพื้นที่ไหวหรือไม่?

ส่วนคำถามที่ว่าไหวไหมต้องถามกลับคนถามว่าไหวหรือเปล่า เพราะส่วนตัวเดินมาปีกว่าแล้ว ตรวจราชการครบทั้ง 77 จังหวัด บางจังหวัดไป 2-3 รอบก็มี ผมไม่เห็นมีอะไรมีแต่ขาเท่านั้น

 

ตอนไปจับเบอร์มั่นใจอะไร?

ได้เบอร์ 37 มาสองครั้ง ครั้งแรกจับให้เบอร์ 37 ผมไปจับก็ได้เบอร์ 37 เบอร์สามเจ็ดเป็นเลขที่ดีนะ เพราะเลข 3 บวก 7 รวมกันแล้วได้ 10 เลขสิบเป็นเลขดีทั้งหมด

 

ทำไมไม่อยากขึ้นดีเบต?

ผมไม่ได้เป็นนักโต้วาที ผมว่าไม่ได้ประโยชน์ ไม่เก่งเรื่องนี้

 

ทำไมการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องเลือกพลังประชารัฐทำไมต้องเลือกเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี?

ประชาชนชอบพรรคไหนก็เลือกไป ผมอาสารับใช้ประชาชน ประชาชนเห็นว่าผมสมควรเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ก็เลือกผม ถ้าเห็นว่าผมไม่เหมาะสมก็ไม่ต้องเลือกผม

 

ขอขอบคุณข้อมูล

https://www.posttoday.com/thailand-election-2023/692930

‘จุรินทร์’ นำทีมปราศรัยจังหวัดนครสวรรค์

เมื่อวานนี้ (9 เม.ย. 66) ที่เวทีปราศรัยจังหวัดนครสวรรค์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำคณะ “จุรินทร์ ออนทัวร์ ภาคเหนือ” ประกอบด้วย ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. ม.ร.ว.ศศิพฤนท์ จันทรทัต และ นายอรัญ วงศ์อนันต์ ผู้สมัครบัญชีรายชื่อ พร้อมกับผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดนครสวรรค์ 6 เขต

 

ประกอบด้วย

เขต 1 นายสงกรานต์ จิตสุทธิภากร เบอร์ 9

เขต 2 นายจรูญ ลาโพธิ์ เบอร์ 7

เขต 3 นายมารุต โมราสุต เบอร์ 8

เขต 4 นายไพรัช ฤทธิ์บำรุง เบอร์ 7

เขต 5 นางคณิฏฐ์ษา ทองวงศ์พิทักษ์ เบอร์ 11

เขต 6 นางสาวสิริรักษ์ บัณฑิตศิละศักดิ์ เบอร์ 7

 

ขึ้นเวทีปราศรัย ที่บริเวณสามแยก NSC อำเภอเมือง นครสวรรค์ โดยมีพี่น้องประชาชนเข้าร่วมฟังการปราศรัยร่วม 3 หมื่นคน เต็มล้นพื้นที่จนเก้าอี้ที่เตรียมไว้ไม่เพียงพอ ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าปลื้ม ทั้งเสื่อรองนั่ง และอาหารที่เตรียมมาขายหมดเกลี้ยง ทันทีที่นายจุรินทร์ เดินทางถึงบริเวณที่ปราศรัยมีบรรดาแฟนคลับมอบดอกไม้ ขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกเป็นจำนวนมาก โดยชาวนครสวรรค์ที่มาฟังการปราศรัยในวันนี้ได้ตัดสินใจแล้วว่าต้องการเลือกประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 พร้อมกับยืนยันว่าจะไปเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งคนทั้งพรรค ในวันที่ 14 พ.ค. นี้อย่างแน่นอน

ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทยเขต 1 ลำปาง ล่องเรือหาเสียง

9 เมษายน 2566 – ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทยเขต 1 ลำปาง นำทีมล่องเรือหาเสียงไปตามแม่น้ำวังตั้งแต่เขื่อนยางไปถึงศาลเจ้าแม่สุชาดาระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร เขตเทศบาลนครลำปางชูนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำ ในโครงการเรือท่องเที่ยวแม่น้ำวังสักการะสิ่งศักด์สิทธิ์จังหวัดลำปาง ซึ่งถือเป็นผู้สมัครคนแรกที่ลงพื้นที่หาเสียงทางน้ำ ไม่ห่วงเรื่องที่พรรคถูกนายชูวิทย์ออกมาคัดค้านเรื่องกัญชาเชื่อประชาชนแยกได้ว่าพรรคสนับสนุนกัญชาเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาด้วยสมุนไพรไทยไม่ได้สนับสนุนเรื่องยาเสพติด

 

บรรยากาศการหาเสียงของผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่จังหวัดลำปาง เริ่มคึกคัก แต่ละพรรคเริ่มวางโปรแกรมลงพื้นที่แนะนำตัวกับประชาชนหลากหลายรูปแบบ และที่คุ้นตาคือรถหาเสียง ป้ายแนะนำตัว การเดินหาเสียงเรียกคะแนนตามตลาดสด และสถานที่สำคัญ แต่เมื่อเย็นวันนี้ นายจินณ์(ชัยยะ) ถาคำฟู ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย เขต1 ลำปาง พร้อมกับทีมงานได้ลงเรือสปีดโบ๊ท หาเสียงทางน้ำเป็นคนแรก โดยได้ชูป้ายหาเสียงพร้อมกับประชาสัมพันธ์แนะนำตัวเองล่องไปตามแม่น้ำวังจากบริเวณเขื่อนยางไปจนถึงศาลเจ้าแม่สุชาดา ระยะทาง 3 กิโลเมตร ในเขตเทศบาลนครลำปาง โดยชูนโยบายด้านการท่องเที่ยว ตามโครงการเรือท่องเที่ยวแม่น้ำวังสักการะสิ่งศักด์สิทธิ์จังหวัดลำปาง ซึ่งสองฝั่งแม่น้ำวังจะมีศาสนาสถานหลายแห่งซึ่งเป็นสถานที่เคารพของประชาชนและสามารถเดินทางไปทางน้ำได้

 

โดยนายจินณ์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาแม่น้ำวังถูกละเลยมาก แต่ปีนี้แม่น้ำวังเริ่มมีปริมาณน้ำในฤดูแล้งหลังเทศบาลนครลำปางทำฝายพับกักเก็บน้ำได้ ทำให้มีปริมาณน้ำเพียงพอที่จะส่งเสริมให้มีการท่องเที่ยวทางน้ำได้ ทั้งเรือท่องเที่ยว เรืออาหาร และอื่น ๆ ซึ่งจะทำให้เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว และกระตุ้นด้านเศรษฐกิจให้กับประชาชนในพื้นที่ได้ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยสนับสนุนและทำด้านการท่องเที่ยวอยู่แล้ว หากตนได้เข้ามาทำหน้าที่ก็จะทำโครงการนี้ให้สำเร็จเพื่อพี่น้องชาวลำปางอย่างแน่นอน

 

ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาต่อต้านเรื่องกัญชาของพรรคภูมิใจไทยจะมีผลต่อคะแนนเสียงหรือไม่ นายจินณ์ บอกว่า กัญชาไม่ได้มีโทษอย่างเดียวแต่ที่ผ่านมาทางพรรคสนับสนุนให้ผู้ที่เข้าไม่ถึงกัญชาเพื่อรักษาได้มีโอกาสใช้รักษาตัวเอง ซึ่งตนเองเป็นหนึ่งในนั้นที่เคยปวดข้อเข่าก็ใช้กัญชาในการรักษา และปัจจุบันสามารถขยับและเดินได้ปกติ ซึ่งเรื่องกัญชาประชาชนสามารถแยกแยะได้ว่ากัญชามีประโยชน์หรือโทษมากกว่า ซึ่งหากมีกฎหมายลูกออกมารองรับก็จะไม่มีปัญหาแต่ที่ผ่านมาพรรคอื่น ๆ เล่นการเมืองกันมากเกินไปจนลืมเรื่องประโยชน์ของประชาชนที่จะได้รับ อยากให้มองเรื่องประโยชน์ของกัญชาในการรักษามากกว่าเป็นเรื่องยาเสพติด

“นพรุจ” อดีตเสื้อแดงตัวตึง

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2566 เวลา 11.00 น.นายนพรุจ วรชิตาวุฒิกุล อดีตคนเสื้อแดงที่เคยติดคุกร่วมกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ คดีบุกบ้านสี่เสาเทเวศร์ และเป็นบุคคลเดียวกันที่ไปตะโกนด่าพรรคเพื่อไทยในวันเปิดรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้ไปจัดกิจกรรมบริเวณหน้าเรือนจำคลองเปรม

 

โดยจำลองแพขนาดเล็ก และมีตัวแพะนอนอยู่บนแพที่ลอยในกาละมังเพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงออกว่า พรรคเพื่อไทยปล่อยลอยแพคนเสื้อแดง

 

นายนพรุจ ได้ตะโกนขณะทำกิจกรรมว่า วันนี้ต้องการจะบอกไปถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยทั้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายเศรษฐา ทวีสิน เคยต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยหรือไม่ และรู้จักคำว่าประชาธิปไตยจริงแค่ไหน รู้ไหมคนเสื้อแดงเคยติดคุกในข้างเรือนจำคลองเปรมเพราะอะไร หลายคนติดคุกเพื่อ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแต่สุดท้ายหลายคนลำบากไม่มีใครช่วยเหลือ หลายคนที่ติดคุกข้างใน

 

ทั้งนี้วันนี้ตนต้องมาบอกประชาชนทั้งแผ่นดินว่า เลิกเชื่อเลิกรักพรรคเพื่อไทยได้แล้ว พวกตนติดคุกฟรีไม่มีใครดูดำดูแดงไม่มีใครมาเยี่ยมไม่มีแม้แต่ข้าวแดงแกงห่อสักชุด

 

“วันนี้ผมเอาแพะมาลอยแพต้องการสื่อให้รู้ว่าพวกผมเป็นแพะที่ถูกลอยแพ ถูกปล่อยให้ลอยตามสายลมถูกเท ไม่มีประโยชน์แล้วคนที่มีประโยชน์เป็นพวกเผด็จการที่มาเพิ่มเติมเพื่อ ”นายนพรุจ กล่าว

 

ที่มา : บ้านเมือง

 

กลาโหมเลื่อนวันรายงานตัว

เมื่อวันที่ 6 เม.ย 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีเอกสารราชการ คำสั่งกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 66 ออกเผยแพร่ เรื่องการกำหนดวันรายงานตัวเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1/2566

 

โดยมีเนื้อหาระบุว่า ตามที่พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2566 กำหนดให้ คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. 2566 นั้น

 

เนื่องด้วยพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 มาตรา 34 กำหนดให้ "ทหารกองเกินที่ถูกเข้ากองประจำการผู้ใด จักต้องเริ่มเข้ารับราชการทหารกองประจำการเมื่อใด ให้นายอำเภอท้องที่ที่รับเข้าตรวจเลือกเป็นผู้กำหนด และให้นายอำเภอออกหมายนัดเพื่อให้ทหารกองเกินผู้นั้นมา ณ ที่อำเภอท้องที่ตามที่ได้กำหนดไว้นั้น เพื่อเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ถ้าทหารกองเกินผู้นั้นไม่มาตามนัดให้ถือว่าหลีกเลี่ยงขัดขืน"

 

ดังนั้นเพื่อสนับสนุนการไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของทหารกองเกินที่จะต้องเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1/2566 ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 กระทรวงกลาโหมจึงขอให้กระทรวงมหาดไทย แจ้งผู้อำนวยการเขต/นายอำเภอ เพื่อประสานการปฏิบัติกับหน่วยสัสดีเขต/หน่วยสัสดีอำเภอ

 

เพื่อออกหมายนัดเข้ารับราชการทหาร (แบบ สด. 40) ให้ทหารกองเกินที่ถูกกำหนดให้เข้ารับราชการทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1/2566 มารายงานตัวและแก้ไขวันรายงานตัวของผู้ที่ได้รับหมายนัดฯ ไปแล้ว จากเดิมวันที่ 1 พ.ค. 2566 เป็นวันที่ 15 พ.ค. 2566

 

ลงนามโดย พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ทำการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

เผยไทม์ไลน์ปลดล็อคกัญชา

เริ่มจากร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดที่เข้าสู่รัฐสภา เป็นการประชุมร่วมกันระหว่าง ส.ส. และ ส.ว. ได้เสนอมาตอนนั้นในร่างมาตรา 29 มันไม่มีคำว่า "กัญชา" อยู่ตั้งแต่ร่างมาแล้ว ทั้ง ๆ ที่กัญชาประเภท 5 เป็นยาเสพติดที่ถูกให้ความสำคัญมาตลอด ใน พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ

 

ต่อมารัฐสภาได้ทำการพิจารณาร่างประมวลกฎหมาย ยาเสพติด ซึ่งเสนอโดยรัฐบาล

ในมาตรา 29 ประเภท 5 มันไม่มีคำว่า ”กัญชา” อยู่ ซึ่งมีคำว่าพืชฝิ่น กับเห็ดขี้ควาย 2 อย่างเท่านั้น ซึ่งเมื่อก่อนตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษปี 2522 ประเภท 5 มันมีคำว่ากัญชา ยาฝิ่น กระท่อม แล้วก็ถอดกระท่อมออกเหลือ 2 อย่าง

 

นายศุภชัย ใจสมุทร เฝ้าเกาะติด มาตรา 29 มาตลอด มีคนเสนอว่า ควรจะต้องมีคำว่ากัญชาด้วยไหม ในการประชุม นายศุภชัย ใจสมุทร เข้าร่วมประชุมด้วย บอกว่า ไม่ มันไม่มาตั้งแต่แรก นายศุภชัยเป็นรองประธาน ในเวลานั้น บอกว่าไม่ต้องมีคำว่ากัญชา นี่คือที่มาทั้งหมด

 

พฤศจิกายน 2564

 

- รัฐสภาทำการพิจารณาแล้วเสร็จ จึงมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา และ มีผลบังคับใช้หลังจากนั้นอีก 30 วัน

 

8 ธันวาคม 2564

 

- จุดเริ่มต้นของการปลดล็อกกัญชา

- ประมวลกฎหมายยาเสพติด มีผลใช้บังคับ โดยการลงมติเห็นชอบ พร้อมทั้ง ส.ส. สว. ทั้งฝ่ายค้าน ทั้งฝ่ายรัฐบาล

 

ดังนั้นกัญชาไม่ได้เป็นยาเสพติดนับตั้งแต่วันที่ 8/12/2564 จนถึงปัจจุบัน

 

มกราคม 2565

 

- คณะกรรมการ ป.ป.ส.ได้มีการจัดประชุม คือตามกฎหมายมาตรา 29 กำหนดว่า ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยคำแนะนำของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด และโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซึ่งมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบเรื่องนี้ ให้ประกาศระบุประเภทของยาเสพติดแต่ละประเภท

 

- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้เสนอต่อที่ประชุม คณะกรรมการ ป.ป.ส. ว่าสิ่งที่เป็นยาเสพติด คือ 1 คือ พืชฝิ่น 2 คือเห็ดขี้ควาย 3 คือสารสกัดจากกัญชา มีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนาบินอล (tetrahydrocannabinol – THC) เกิน 0.2 % ที่ยังเป็นยาเสพติด

 

- พรรคภูมิใจไทย ขอให้มีการประกาศบังคับใช้ โดยมีการนับไปอีก 120 วัน ก็คือวันที่ 8 มิถุนายน 2565

 

- นายศุภชัย เสนอ จะต้องมีกฎหมายพ.ร.บ. กัญชา กัญชง มาอีกฉบับหนึ่ง

 

- ที่ประชุมมอบให้พรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีฉบับร่างอยู่แล้ว นำฉบับร่างพ.ร.บของพรรคภูมิใจไทย ที่เกี่ยวกับการทำเรื่องกัญชาเสรีทางการแพทย์นั้นมายื่น เพื่อให้ทันภายใน 120 วัน โดย อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ไปยื่นต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาเองโดยตรง

 

- นายชวน หลีกภัย ประธานสภา พิจารณาบรรจุเข้ามาเป็นร่างพระราชบัญญัติต่อไปได้ และนายกรัฐมนตรีได้อนุมัติรับรองให้ทันทีทันใด

 

9 มิถุนายน 2565

 

- วันที่ 9 มิถุนายน 2565 ได้ตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมา 25 คน และทำการพิจารณากันจนแล้วเสร็จ ผ่านไป 19 วันมีการประชุมรัฐสภาอีกครั้ง ปรากฏว่า มีการเสนอเข้าที่ประชุมแล้ว การเปิดเสรีกัญชานั้นได้ถูกตีตก จากพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อไทย พลังประชารัฐ ก้าวไกล และพรรคประชาชาติ ไม่ยอมให้กฎหมายผ่านมติการประชุม

 

- พ.ร.บ.กัญชา กัญชง เข้าสู่วาระที่ 2 มี ส.ส.จากพรรค ประชาธิปัตย์ เพื่อไทย ก้าวไกล ประชาชาติ ยืนยันจะเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด จน ณ วันนี้สภาปิด พ.ร.บ.กัญชา ก็ค้างในสภา พรรคภูมิใจไทย เดินหน้าต่อ เพื่อจะทำกัญชาทางการแพทย์ตั้งแต่หาเสียง และเศรษฐกิจ จะไม่เอานันทนาการ พรรคภูมิใจไทย จะเอากัญชาทางการแพทย์เท่านั้น แต่โดนบิดเบือนจากพรรคการเมืองตรงข้ามพรรคภูมิใจไทย

 

10 มิถุนายน 2565

 

- อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดประชุมวิชาการ “มหกรรมกัญชา 360 องศา ปลดล็อคกัญชา ประชาชนได้อะไร” พร้อมแจกต้นกล้ากัญชา 1 พันต้น ณ จังหวัดบุรีรัมย์

 

16 มิถุนายน 2565

 

- กระทรวงสาธารณสุขออกประกาศ สธ. มีผลบังคับใช้วันที่ 17 มิ.ย 2565 เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 4, 44, 45(3), 45(4) แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542 กำหนดให้กัญชา หรือสารสกัดกัญชา เป็นสมุนไพรควบคุม

 

18 มิถุนายน 2565

 

- อนุทิน ชาญวีรกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย แจง ประกาศ สธ. กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม มีผลตามกฎหมายแล้ว

 

การขับเคลื่อนนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กว่า ๑ ปี ในช่วงแรกเน้นให้ประชาชนเข้าถึงยากัญชาทางการแพทย์ ที่ได้มาตรฐานจากสถานพยาบาลใกล้บ้านกว่า ๓๐๐ แห่งทั่วประเทศ

 

การผลักดันนโยบายกัญชาดำเนินไปอย่างต่อเนื่องโดยพรรคภูมิใจไทย จนกระทั่ง วันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๒ ได้มีการเสนอร่างกฎหมาย ๒ ฉบับ คือ ร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ แก้ไขเพิ่มเติม และร่างพระราชบัญญัติสถาบันพืชยาเสพติดแห่งประเทศไทย หรือที่รู้จักกันในชื่อ "กฎหมายปลูกกัญชาบ้านละ ๖ ต้น" เพื่อปลดล็อคกัญชาให้สามารถใช้ทางการแพทย์ได้อย่างแพร่หลาย และประชาชนสามารถปลูกได้ตาม นโยบาย ที่พรรคฯ หาเสียงไว้ในช่วงเลือกตั้ง

 

นโยบายปลดล็อกกัญชานี้ ออกมาเพื่อดึงดูดประชาชนให้สนใจ สนับสนุน และเลือกพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล และให้นายอนุทิน ชาญวีรกูลหัวหน้าพรรค เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อที่จะได้ทำให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านมติ นายอนุทินยังกล่าวอีกว่า กัญชามีประโยชน์ ทั้งทางด้านการแพทย์ สุขภาพของประชาชน ช่วยในการรักษาโรคมากมาย และ ยังเป็นผลดีในทางด้านเศรษฐกิจอีกด้วย การคืนกัญชาให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์นี้ช่วยสร้างรายได้เสริม และ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ พรรคภูมิใจไทยยังย้ำว่าถ้าไม่เลือกพรรคภูมิใจไทย คนที่ปลูกหรือใช้กัญชาจะกลับไปติดคุก

 

แต่ดูเหมือนว่าเกมที่พรรคภูมิใจไทยได้คิดไว้เหมือนจะพลิก เนื่องจาก พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อไทย พลังประชารัฐ ก้าวไกล และพรรคประชาชาติไม่ได้ลงมติเห็นชอบกับ พ.ร.บ กัญชาดังกล่าว พ.ร.บ จึง ถูกตีตกไป น่าจะเป็นด้วยเหตุผลทางการเมือง ที่กลัวพรรคภูมิใจไทยได้คะแนนนิยมจากประชาชนมากเกินไป นี่จึงเป็นอีกทางที่พรรคการเมืองอื่นๆอาทิ เพื่อไทย พลังประชารัฐ ฯลฯ ใช้เพื่อสกัด พรรคภูมิใจไทย โดยไม่ยอมรับ พ.ร.บ กัญชง กัญชา และลงมติไม่เห็นชอบ

 

ซึ่งดูขัดแย้งกับช่วงแรกที่พรรคภูมิใจไทย ได้ยื่นเสนอร่างต่อรัฐสภา ส.ส. สว. ทั้งฝ่ายค้าน ทั้งฝ่ายรัฐบาล และ นายกรัฐมนตรี ต่างมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ ยอมรับ พ.ร.บ กัญชง กัญชา และ การเปิดเสรีกัญชาให้ใช้ได้อย่างถูกกฎหมาย โดยที่ไม่ถูกระบุอยู่ใน ประเภทของยาเสพติด แต่เมื่อการแสวงหาผลประโยชน์ และ การเลือกตั้ง ได้เกิดขึ้น ทุกอย่างจึงพลิกผัน เพื่อผลประโยชน์ของตนทั้งสิ้น


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. North Time Thailand
Take Me Top